Payment Gateway หรือเกตเวย์การชำระเงินคือสิ่งที่ต้องมีถ้าคุณต้องการประมวลผลการชำระเงินออนไลน์ผ่านร้านค้าอีคอมเมิร์ซ นี่คือเทคโนโลยีที่ช่วยเก็บข้อมูลทางการเงินของผู้ซื้ออย่างปลอดภัยและส่งต่อไปยังผู้ประมวลผลที่จะโอนเงินจากบัญชีของพวกเขาไปยังบัญชีของคุณ
มี Payment Gateway นั้นมีให้เลือกมากมาย โดยแต่ละตัวก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป
หากคุณยังมีคำถามว่าจะใช้ Payment Gateway เจ้าไหนดี นี่คือคู่มือที่จะรวบรวม Payment Gateway ที่ดีที่สุด โดยจัดอันดับตามกรณีการใช้งาน ข้อดี ข้อเสีย และราคา เพื่อให้คุณเลือกตัวที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ
Payment Gateway คืออะไร?
Payment Gateway เป็นเทคโนโลยีประเภทหนึ่งที่ช่วยให้ผู้ค้าปลีกสามารถประมวลผลการชำระเงินจากลูกค้าได้ โดยจะส่งข้อมูลการชำระเงินอย่างปลอดภัยและเข้ารหัสข้อมูลการชำระเงิน เช่น หมายเลขบัตรเครดิตและที่อยู่เรียกเก็บเงินของลูกค้า ซึ่งจะถูกส่งจากเบราว์เซอร์ของลูกค้าไปยังเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของคุณ
Payment Gateway มีลักษณะยังไง?
Payment Gateway อาจฟังดูเข้าใจยาก แต่เราสามารถแบ่งบทบาทของ Payment Gateway เป็นขั้นตอนสำคัญแบบย่อ ๆ ได้ดังนี้
- ลูกค้าเริ่มชำระเงินบนเว็บไซต์ของคุณ (โดยปกติจะอยู่ในหน้าเช็คเอาท์)
- ลูกค้าใส่รายละเอียดการชำระเงินลงใน Payment Gateway โดยขั้นตอนนี้อาจมีหลายรูปแบบ รวมถึงการกรอกรายละเอียดด้วยตนเองหรือใช้กระเป๋าเงินมือถือ เช่น Shop Pay, Google Pay หรือ Apple Pay
- Payment Gateway จะเข้ารหัสข้อมูลที่ลูกค้าได้กรอกไว้เพื่อไม่ให้แฮกเกอร์สามารถดักจับได้
- Gateway จะส่งข้อมูลนี้ไปยังผู้ประมวลผลการชำระเงินหรือธนาคารที่รับเงิน ซึ่งจะส่งคำขออนุมัติไปยังเครือข่ายบัตรของลูกค้า เช่น Visa, Mastercard หรือ American Express จากนั้นเครือข่ายบัตรจะส่งต่อไปยังธนาคารที่ออกบัตร
- ธนาคารที่ออกบัตรจะอนุมัติหรือปฏิเสธคำขอและส่งคำตอบนี้กลับไปยัง Payment Gateway โดยคุณจะเห็นผลลัพธ์นี้ในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของคุณไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอนุมัติหรือปฏิเสธ
- หากการชำระเงินได้รับการอนุมัติ ผู้ประมวลผลการชำระเงินจะช่วยให้เงินจากบัญชีของลูกค้าโอนเข้าบัญชีผู้ค้า หากถูกปฏิเสธ Payment Gateway จะแสดงเหตุผล เช่น ยอดเงินมีไม่พอ มีความเสี่ยงจะถูกฉ้อโกง หรือบัตรไม่ถูกต้อง
Payment Gateway เจ้าไหนดี ลิสต์ 6 ผู้ให้บริการที่เราคัดมาแล้ว
1. Shopify Payments
เหมาะสำหรับ: ผู้ค้า Shopify
Shopify Payments คำตอบแรกของโจทย์ Payment Gateway เจ้าไหนดี เพราะระบบนี้จะช่วยให้ผู้ค้าอีคอมเมิร์ซสามารถประมวลผลการชำระเงินออนไลน์และออฟไลน์ได้ด้วยแพลตฟอร์มเดียว โดย Shopify Payments ปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยข้อมูลของอุตสาหกรรมบัตรชำระเงิน (PCI DSS) เพื่อปกป้องข้อมูลของลูกค้า
Payment Gateway ของ Shopify รองรับช่องทางการขายที่หลากหลาย ทำให้สามารถรับการชำระเงินผ่าน Facebook, Instagram และ Google ได้ และผู้ค้า Shopify ที่ใช้งานอยู่จะสามารถใช้ประโยชน์จากค่าธรรมเนียมการชำระเงินที่ต่ำลงสำหรับธุรกรรมที่ทำผ่าน Shopify Payments ทำให้มีกำไรมากขึ้น
ข้อดีของ Shopify Payments
- ไม่ต้องใช้ซอฟต์แวร์เพิ่มเติมในการประมวลผลการชำระเงินออนไลน์
- ค่าธรรมเนียมการประมวลผลการชำระเงินในอัตราที่แข่งขันได้
- ปฏิบัติตามมาตรฐาน PCI DSS เพื่อปกป้องข้อมูลทางการเงินที่สำคัญ
- รองรับวิธีการชำระเงินที่หลากหลาย เช่น บัตรเครดิต, กระเป๋าเงินดิจิทัล, Shop Pay, การซื้อก่อนจ่ายทีหลัง และ PayPal
- ประมวลผลการชำระเงินระหว่างประเทศในสกุลเงินท้องถิ่นของลูกค้า
- เครื่องมือรายงานทางการเงินที่ใช้งานง่ายในแดชบอร์ดของ Shopify
- บริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง
- การฝากเงินอัตโนมัติเพื่อถอนเงินจากผู้ดูแลระบบ Shopify ไปยังบัญชีธนาคารธุรกิจของคุณ
ข้อเสียของ Shopify Payments
- ใช้ได้เฉพาะกับผู้ค้า Shopify เท่านั้น
- ยังไม่เปิดให้บริการในประเทศไทย
- มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมสำหรับธุรกรรมที่ทำผ่าน Payment Gateway จากภายนอกสำหรับผู้ค้าที่ไม่ได้ใช้ Shopify
ราคา: ค่าธรรมเนียมการประมวลผลการชำระเงินของ Shopify จะแตกต่างกันไปตามแพ็กเกจของคุณ โดยจะอยู่ระหว่าง 2.9% ถึง 2.4% บวกกับค่าธรรมเนียม 30 เซนต์ (ประมาณ 9.8 บาท) ต่อธุรกรรม
2. Stripe
เหมาะสำหรับ: ผู้ค้าที่ให้บริการแบบสมัครสมาชิก
Stripe มีฟีเจอร์การเรียกเก็บเงินแบบสมัครสมาชิก เช่น การออกใบแจ้งหนี้และการชำระเงินด้วยบัตร
Stripe เป็นหนึ่งในคำตอบที่ดีที่สุดของโจทย์ คำตอบแรกของโจทย์ Payment Gateway เจ้าไหนดี? ซึ่งนี่เป็นระบบที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากไม่ผูกติดกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเฉพาะ ทำให้ผู้ค้าสามารถรับการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตและการชำระเงินผ่านมือถือได้ และง่ายต่อการผสานการทำงานกับเว็บไซต์และแอปมือถือส่วนใหญ่
Stripr มีการปรับแต่งในระดับสูงและมีความยืดหยุ่นสูง แต่ก็ต้องอาศัยความรู้ทางเทคนิคมากขึ้นในการตั้งค่าและใช้งาน นอกจกานี้ยังมีฟีเจอร์สำหรับการออกใบแจ้งหนี้ การสมัครสมาชิก และตลาดระหว่างประเทศด้วย
ข้อดีของ Payment Gateway ของ Stripe
- ปฏิบัติตามมาตรฐาน PCI DSS
- ฟีเจอร์การปรับแต่งเพื่อสร้างแบรนด์สำหรับการชำระเงิน
- รองรับประเทศและสกุลเงินจำนวนมาก
- การแปลงสกุลเงินอัตโนมัติเพื่อประมวลผลการชำระเงินระหว่างประเทศ
- ฟีเจอร์การเรียกเก็บเงินแบบสมัครสมาชิกเพื่อประมวลผลการชำระเงินแบบตามรอบและจัดเก็บข้อมูลบัตรอย่างปลอดภัย
- เครื่องมือรายงานทางการเงินที่ครอบคลุม
ข้อเสียของPayment Gateway ของ Stripe
- ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญทางเทคนิคมากขึ้นในการตั้งค่าและใช้งาน
- เอกสารสนับสนุนมีเนื้อหาทางเทคนิคในระดับสูง
- มีค่าธรรมเนียมการขอคืนเงินสูงหากลูกค้าโต้แย้งการชำระเงิน
ราคา: Stripe มีค่าธรรมเนียมการประมวลผลการชำระเงินมาตรฐานที่ 2.9% + 30 เซนต์ (ประมาณ 9.8 บาท) สำหรับธุรกรรมที่ทำโดยใช้บัตรและกระเป๋าเงิน มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมสำหรับบัตรที่กรอกด้วยตนเอง (0.5%) การแปลงสกุลเงิน (1%) และบัตรระหว่างประเทศ (1.5%)
3. PayPal
เหมาะสำหรับ: ธุรกิจที่มีฐานลูกค้าทั่วโลกที่มีบัญชี PayPal
Payment Gateway ของ PayPal ไม่มีค่าธรรมเนียมการเริ่มใช้งาน
PayPal เป็นอีกหนึ่ง Payment Gateway ที่ได้รับความนิยม ซึ่งช่วยให้ทุกคนสามารถประมวลผลการชำระเงินทางอินเทอร์เน็ตได้ เป็นชื่อที่รู้จักกันดีในโลกของการชำระเงินออนไลน์และมีโปรแกรมป้องกันที่ช่วยปกป้องทั้งผู้ซื้อและผู้ขายจากการฉ้อโกง ข้อเสียที่ใหญ่ที่สุดคือ PayPal มีราคาแพงกว่าช่องทางการชำระเงินอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณชำระเงินเป็นจำนวนมาก
ข้อดีของ Payment Gateway ของ PayPal
- บริการยอดนิยมและเชื่อถือได้ เป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกที่มีอิทธิพลต่อความไว้วางใจของลูกค้าและอัตราการแปลงสกุลเงิน
- ความสามารถในการออกใบแจ้งหนี้
- โปรแกรมคุ้มครองผู้ซื้อและผู้ขายเพื่อป้องกันการฉ้อโกง
- การชำระเงินแบบ One-touch เพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า
- รองรับการชำระเงินระหว่างประเทศในหลากหลายสกุลเงิน
- ลูกค้าสามารถใช้เงินในบัญชี PayPal เพื่อชำระค่าสินค้าได้
- ไม่มีค่าธรรมเนียมการเริ่มใช้งาน
ข้อเสียของPayment Gateway ของ PayPal
- ต้องมีการตั้งค่าและขั้นตอนการชำระเงินแยกต่างหาก
- ฝ่ายบริการลูกค้าไม่ใช่ส่วนที่ดีที่สุด
- มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมธุรกรรมเพิ่มเติม
- ค่าธรรมเนียมธุรกรรมสูงกว่าช่องทางการชำระเงินอื่น ๆ
- ผู้ค้าบางรายรายงานว่า PayPal ได้ล็อกบัญชีและอายัดเงินโดยไม่คาดคิด
ราคา: PayPal จะหัก 3.49% ของธุรกรรม บวกกับค่าธรรมเนียม 49 เซนต์ (ประมาณ 15.90 บาท) โดยผู้ค้าที่ยอมรับการชำระเงินระหว่างประเทศจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม 1.5% นอกเหนือจากค่าธรรมเนียมธุรกรรมพื้นฐาน และมีค่าธรรมเนียมที่ตั้งไว้สำหรับสกุลเงินเฉพาะ
4. Adyen
เหมาะสำหรับ: ธุรกิจออนไลน์ขนาดใหญ่
Payment Gateway ของ Adyen สามารถปรับขนาดได้และรองรับการขายหลายช่องทาง
Adyen เป็นPayment Gateway ระดับโลกที่ช่วยให้ผู้ค้าสามารถประมวลผลการชำระเงินได้หลายสกุลเงินและหลายประเทศ ถือเป็นตัวเลือกที่ดีหากคุณกำลังมองหาการสมัครสมาชิกและการชำระเงินระหว่างประเทศ
ข้อดีของPayment Gateway ของ Adyen
- มีตัวเลือกการชำระเงินมากมายเพื่อประมวลผลการชำระเงินระหว่างประเทศ รวมถึงการชำระเงินดิจิทัล, วิธีการชำระเงินในท้องถิ่น และบัตรเครดิตหลัก ๆ ทั้งหมด
- รองรับการขายหลายช่องทางเพื่อรับชำระเงินข้ามภูมิภาคผ่านการผสานการทำงานเพียงครั้งเดียว ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์
- บริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมงไม่มีวันหยุด
- สร้างบัตรจริงและบัตรดิจิทัลที่มีแบรนด์
- ตัวเลือกในการสร้างบัญชีทดสอบก่อนยืนยันการชำระเงิน
- ระบบวิเคราะห์ความเสี่ยงด้วย AI เพื่อปกป้องธุรกิจจากการฉ้อโกง
- รองรับการสมัครสมาชิกและการชำระเงินแบบประจำ
- ดำเนินธุรกรรมอย่างปลอดภัยได้ทุกที่ ทั้งทางออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ และในร้านค้าด้วยการแปลงให้เป็นโทเค็น
- ค่าธรรมเนียมการชำระเงินแบบคงที่สำหรับแต่ละวิธีการชำระเงิน
ข้อเสียของPayment Gateway ของ Adyen
- ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจออนไลน์ขนาดเล็ก
- ฟีเจอร์การปรับแต่งมีจำกัด
- โมเดลราคาอาจซับซ้อนกว่า Payment Gateway อื่นๆ
ราคา: Adyen ไม่คิดค่าธรรมเนียมรายเดือน แต่ค่าใช้จ่ายของ Payment Gateway ขึ้นอยู่กับธนาคารที่ออกบัตรของลูกค้า ซึ่งอยู่ระหว่าง 3% ถึง 12% บวกอีก 13 เซนต์ (ประมาณ 4.22 บาท)
5. Authorize
เหมาะสำหรับ: ผู้ค้าปลีกที่มีบัญชีผู้ค้า Visa
Authorize.net แสดงการพยายามทำธุรกรรมที่เกิดขึ้นผ่าน Payment Gateway
Authorize.net อาจเป็นตัวเลือกที่ดีหากคุณมองหา Payment Gateway ที่เข้ากันได้กับบัญชีผู้ค้า Visa โดยซอฟต์แวร์นี้มี Visa เป็นเจ้าของและดำเนินการต่าง ๆ ซึ่งทำให้การซิงค์ Payment Gateway ของคุณกับบัญชีผู้ค้า Visa เป็นเรื่องง่าย
ข้อดีของ Payment Gateway ของ Authorize.net
- อัตราการทำงานสูง
- ใช้งานง่ายและเหมาะสำหรับผู้ค้าที่ไม่มีความรู้ทางเทคนิค
- รับชำระเงินผ่านบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต เช็ค PayPal และ Apple Pay
- ระบบตรวจจับการฉ้อโกงขั้นสูงเพื่อป้องกันธุรกรรมออนไลน์ที่เป็นการฉ้อโกง
- ตัวเลือกในการส่งใบแจ้งหนี้ให้กับลูกค้าโดยใช้Payment Gateway เดียวกัน
- แบบฟอร์มการชำระเงินที่ปรับแต่งได้
ข้อเสียของ Payment Gateway ของ Authorize.net
- ต้องมีการสมัครสมาชิกรายเดือน
- อินเทอร์เฟซดูล้าสมัยเมื่อเปรียบเทียบกับ Gateway อื่น
ราคา: ราคาของ Authorize.net ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการใช้เฉพาะช่องทางการชำระเงินหรือบัญชีผู้ค้าด้วย สำหรับPayment Gateway เพียงอย่างเดียว คุณจะต้องเสียค่าธรรมเนียมการสมัครสมาชิกรายเดือน 25 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 810.84 บาท) บวกค่าธรรมเนียมชุดการชำระเงินรายวันอีก 10 เซนต์ (ประมาณ 3.25 บาท) + 10 เซนต์
6. WorldPay
เหมาะสำหรับ: ผู้ค้าที่ประมวลผลการชำระเงินระหว่างประเทศ
WorldPay ช่วยให้ผู้ค้าออนไลน์ประมวลผลการชำระเงินระหว่างประเทศได้
WorldPay เป็นผู้ให้บริการบริการการชำระเงินที่มี Gateway ของตัวเอง สิ่งที่ดีที่สุดคือ WorldPay เชื่อมต่อกับธนาคารและพันธมิตรทั่วโลกเพื่อประมวลผลการชำระเงินระหว่างประเทศ แต่ก็มีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมด้วยเช่นกัน
ข้อดีของ Payment Gateway ของ WorldPay
- เหมาะสำหรับธุรกิจทุกขนาด
- ปรับแต่งได้และยืดหยุ่นมาก
- มีฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยม รวมถึง OmniShield เพื่อปกป้องข้อมูลการชำระเงิน
- รองรับวิธีการชำระเงินมากกว่า 300 วิธีและหลายสกุลเงิน
- เชื่อมต่อกับธนาคารและพันธมิตรการชำระเงินทั่วโลกเพื่อประมวลผลการชำระเงินระหว่างประเทศ
- บริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง
- ไม่มีค่าธรรมเนียมการสมัครสมาชิกรายเดือน
ข้อเสียของPayment Gateway ของ WorldPay
- ข้อมูลราคาไม่โปร่งใสสำหรับเครือข่ายการออกบัตรเช่น American Express และ Discover
ราคา: ราคาของ WorldPay ขึ้นอยู่กับวิธีการชำระเงินที่ลูกค้าเลือก ซึ่งอยู่ระหว่าง 0.75% ถึง 2.75%
เราจะเลือก Payment Gateway เจ้าไหนดี
ค่าธรรมเนียมการประมวลผลการชำระเงิน
สำหรับคำถามที่ว่า Payment Gateway เจ้าไหนดีนั้น เราจะประเมินค่าธรรมเนียมการประมวลผลสำหรับประเภทธุรกรรมที่แตกต่างกัน รวมถึงในด้านต่อไปนี้
- วิธีการชำระเงินที่แตกต่างกัน
- ธนาคารที่ออกบัตรของลูกค้า (American Express มักมีค่าธรรมเนียมสูงกว่า)
- การชำระเงินและสกุลเงินระหว่างประเทศ
ค่าธรรมเนียมเล็กน้อยอาจสะสมเพิ่มขึ้นมากเมื่อเวลาผ่านไป ตัวอย่างเช่น หากคุณทำธุรกรรมผ่านช่องทางการชำระเงินมูลค่า 50,000 ดอลลาร์ต่อปี (ประมาณ 1,621,525.23 บาท) ค่าธรรมเนียม 2.4% จะเท่ากับค่าธรรมเนียมธุรกรรมรวม 1,200 ดอลลาร์ (ประมาณ 38,916.61 บาท) หากคุณเลือกจ่ายค่าธรรมเนียม 3.49% ขึ้นไป เท่ากับว่าคุณจะต้องจ่ายเพิ่มอีก 545 ดอลลาร์ (ประมาณ 17,674.63 บาท) สำหรับการดำเนินการชำระเงินตลอดทั้งปี
วิธีการชำระเงิน
คุณรู้หรือไม่ว่า 11% ของผู้ซื้อออนไลน์ทิ้งรถเข็นสินค้าออนไลน์เพราะผู้ค้าปลีกไม่รับวิธีการชำระเงินที่พวกเขาต้องการใช้ การเลือก Gateway ที่รองรับตัวเลือกการชำระเงินที่หลากหลายจะช่วยลดการทิ้งรถเข็นและปิดการขายได้มากขึ้น ซึ่งรวมถึง:
- บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต
- กระเป๋าเงินมือถือ
- ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง
ในบางประเทศจะมีวิธีการชำระเงินที่ได้รับความนิยมมากกว่าวิธีอื่น เช่น ถ้าคุณขายในจีน คำตอบของคำถามที่ว่า Payment Gateway เจ้าไหนดีนั้นจะต้องเป็น Gateway ที่ประมวลผลการชำระเงินผ่าน WeChat ได้ เพราะผู้ใช้ 920 ล้านคนในจีนใช้วิธีนี้ชำระเงินจากการซื้อของออนไลน์
ความปลอดภัย
Payment Gateway จะจัดการข้อมูลทางการเงินที่สำคัญที่คุณไม่ต้องการให้ตกไปอยู่ในมือของผู้ไม่หวังดี ดังนั้นคำตอบของคำถามที่ว่า Payment Gateway เจ้าไหนดีนั้นจะต้องเป็น Gateway ที่สอดคล้องกับมาตรฐาน PCI DSS และมีคุณลักษณะด้านความปลอดภัย เช่น การเข้ารหัสและการสร้างโทเค็น มาตรฐานอุตสาหกรรมเหล่านี้จะกำหนดแนวทางด้านความปลอดภัยในการชำระเงินและในขณะที่ประมวลผลการชำระเงินออนไลน์
การผสานการทำงาน
แค่ทำธุรกิจก็ยากพอแล้ว แทนที่จะกดดันตัวเองให้ผสานการทำงานของระบบต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ลองปล่อยให้ระบบเหล่านั้นทำงาน โดยเลือก Payment Gateway ที่ผสานการทำงานกับเทคโนโลยีที่คุณมี ซึ่งรวมถึง
- แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของคุณ
- ซอฟต์แวร์จุดขายหากคุณขายแบบออฟไลน์ด้วย
- ระบบการจัดการคลังสินค้า
- แอปการจัดการการสมัครสมาชิก
- ซอฟต์แวร์บัญชี
- แอปวิเคราะห์ข้อมูล
ความน่าเชื่อถือ
Payment Gateway ที่เชื่อถือได้จะช่วยให้คุณเปิดทำการได้ตลอดเวลาที่ลูกค้าต้องการซื้อ ก่อนที่จะตัดสินใจเลือก Payment Gateway ให้ดูจากรายงานการทำงาน ยิ่งเปอร์เซ็นต์สูงก็ยิ่งดี
หาก Gateway ของคุณมีปัญหาทางเทคนิคซ้ำแล้วซ้ำเล่า คุณจะไม่แค่สูญเสียเงินเท่านั้น แต่จะทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ไม่ดีไปด้วย ซึ่งอาจทำให้คนไม่กลับมาซื้ออีก โดยผู้คน 86% จะเลิกใช้แบรนด์ที่ตนไว้วางใจหลังจากที่ได้รับประสบการณ์ที่ไม่ดีเพียงครั้งเดียว
ประสบการณ์ของลูกค้า
ลูกค้าจะมีปฏิสัมพันธ์กับ Payment Gateway ทุกวัน ยิ่งประสบการณ์นั้นน่าพอใจมากเท่าไร พวกเขาก็ยิ่งมีแนวโน้มที่จะซื้อให้เสร็จเรียบร้อยและจะยังซื้อจากธุรกิจต่อไป
ประสบการณ์การชำระเงินที่ยอดเยี่ยมนั้นจะต้องเป็นดังนี้
- รองรับวิธีการชำระเงินที่หลากหลาย
- ทำงานได้ดีในทุกอุปกรณ์ ทั้งเดสก์ท็อป มือถือ และแท็บเล็ต
- ผู้ให้บริการ Payment Gateway ที่ลูกค้ารู้จักและไว้วางใจ
- มีสัญญาณของความปลอดภัยหรือน่าเชื่อถือ เช่น โลโก้การปฏิบัติตามมาตรฐาน PCI DSS
- การช่วยเหลือลูกค้าที่เชื่อถือได้
Payment Gateway เจ้าไหนดีที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ
การเลือก Payment Gateway สำหรับธุรกิจออนไลน์เป็นการตัดสินใจที่สำคัญ ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อประสบการณ์ของลูกค้าเท่านั้น แต่ค่าธรรมเนียมการประมวลผลการชำระเงินยังทำให้กำไรลดลงอย่างรวดเร็วได้ด้วย
หากคุณกำลังทำธุรกิจอยู่ใน Shopify คุณสามารถใช้ Payment Gateway ของแพลตฟอร์มเองได้เลย เพราะไม่มีความจำเป็นต้องหาผู้ให้บริการจากภายนอกมาที่เชื่อมต่อกับร้านค้าของคุณ หรือจะเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมการประมวลผลการชำระเงิน คุณก็สามารถทำได้ทุกอย่างในที่เดียว
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการค้นหาว่า Payment Gateway เจ้าไหนดี
Payment Gateway เจ้าไหนดีที่สุด?
- Shopify Payments สำหรับร้านค้าอีคอมเมิร์ซ
- PayPal สำหรับผู้ค้าที่ลูกค้าใช้กระเป๋าเงินดิจิทัลของ PayPal
- Stripe สำหรับผู้ค้าที่ขายการสมัครสมาชิกที่มีการชำระเงินแบบประจำ
- Adyen สำหรับการชำระเงินหลายช่องทางที่มีค่าธรรมเนียมการประมวลผลอัตราคงที่
- Authorize.net สำหรับบัญชีผู้ค้า Visa
- WorldPay สำหรับการชำระเงินระหว่างประเทศ
ผู้ให้บริการ Payment Gateway คืออะไร?
ผู้ให้บริการ Payment Gateway คือซอฟต์แวร์ประเภทหนึ่งที่สามารถเข้ารหัสข้อมูลการชำระเงินที่สำคัญได้ บริษัทเหล่านี้ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ค้าปลีกออนไลน์ที่ต้องการประมวลผลการชำระเงินทั้งทางออนไลน์และในร้านค้าผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ
PayPal เป็น Payment Gateway หรือไม่?
PayPal เป็น Payment Gateway ที่ช่วยให้ผู้ค้าสามารถเก็บเงินจากลูกค้าได้อย่างปลอดภัย
Payment Gateway เจ้าไหนดีในแง่ของการเริ่มใช้งานได้ง่ายที่สุด?
Shopify เป็น Payment Gateway ที่เริ่มใช้งานได้ง่ายที่สุดหากคุณมีร้านค้า Shopify อยู่แล้ว คุณไม่จำเป็นต้องหาซอฟต์แวร์จากภายนอกเลย เพียงแค่เปิดใช้งาน Payment Gateway ใน Admin Shopify ก็ใช้ได้แล้ว
แพลตฟอร์มการชำระเงินใดที่คนใช้มากที่สุด?
PayPal เป็นแพลตฟอร์มการชำระเงินที่มีผู้ใช้มากที่สุดในโลก โดยประมวลผลธุรกรรมมากกว่าปีละ 2 แสนล้านรายการ และมีผู้ค้า 36 ล้านรายที่ประมวลผลการชำระเงินออนไลน์จากผู้ใช้ 431 ล้านคน


