ทุกวันนี้ธุรกิจต้องเผชิญกับโจทย์สำคัญสองด้านไปพร้อมกัน ทำให้ผู้ค้าต้องตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้ทัน พร้อมกับต้องตอบโจทย์ความคาดหวังเรื่องความยั่งยืนที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ของนักช้อปรุ่นใหม่
ในช่วงหกปีที่ผ่านมา การค้นหาออนไลน์ทั่วโลกเกี่ยวกับ “สินค้าเพื่อความยั่งยืน” เพิ่มขึ้นถึง 71% และในปีที่ผ่านมา ผู้บริโภคทั่วโลกกว่า 44% เลือกซื้อจากแบรนด์ที่แสดงความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืนอย่างชัดเจน
ลูกค้ามักภักดีกับแบรนด์ที่ยืนหยัดด้านความยั่งยืนมากเป็นพิเศษ ซึ่งงานวิจัยพบว่าสามารถเพิ่มมูลค่าตลอดอายุลูกค้า (lifetime value) ได้มากถึง 306%
เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปเช่นนี้ ทำให้หลายแบรนด์เริ่มขยับตัว ปัจจุบัน 35% ของบริษัทที่เข้าร่วมสำรวจเริ่มวัดหรือเก็บข้อมูลการปล่อยคาร์บอนของตนเองอย่างจริงจัง และ 23% กำลังดำเนินการชดเชยการปล่อยคาร์บอนด้วย
แต่การชดเชยยังเป็นเพียงครึ่งหนึ่งของภาพรวม อีกครึ่งหนึ่งคือการดึงคาร์บอนที่ลอยอยู่ในชั้นบรรยากาศออกมาให้ได้จริง
แบรนด์ที่สนับสนุนเทคโนโลยีการกำจัดคาร์บอนจะสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกที่มากขึ้นต่อการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน และยังแสดงให้ลูกค้าเห็นถึงความตั้งใจด้านความยั่งยืนในระดับที่ชัดเจนยิ่งกว่าเดิม
นี่คือเหตุผลที่ Shopify สร้างแอป Planet ขึ้นมา เพื่อให้ร้านค้าที่ขายบน Shopify สามารถเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนและเร่งความก้าวหน้าของเทคโนโลยีกำจัดคาร์บอน พร้อมเปิดโอกาสให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในการสนับสนุนได้เช่นกัน ผ่านประสบการณ์การซื้อและการส่งของแบบคาร์บอนนิวทรัลที่ทำได้ง่ายกว่าเดิม
แนะนำแอป Planet จาก Shopify
Planet คือแอปใหม่จาก Shopify ที่ช่วยให้ร้านทำการส่งของแบบคาร์บอนนิวทรัลได้ทันที พร้อมไอคอนบนหน้าร้านที่ใช้สื่อสารให้ลูกค้ารู้ว่าธุรกิจมีความตั้งใจจริงในการสนับสนุนการกำจัดคาร์บอน
เมื่อใช้ Planet ร้านค้าบน Shopify จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก โดยมีตัวเลือกสำหรับการส่งของแบบคาร์บอนนิวทรัลให้เลือกสองแบบ:
- เปิดให้ลูกค้าจ่ายเพิ่มประมาณ 9 บาท ก่อนชำระเงิน
- ร้านจ่ายเองระหว่าง 1.20 ถึง 5.40 บาทต่อออเดอร์
พร้อมส่งของแบบคาร์บอนนิวทรัลหรือยัง?
ติดตั้งแอป Planetสนับสนุนเทคโนโลยีกำจัดคาร์บอนชั้นนำระดับโลก
การกำจัดคาร์บอนทำได้หลายรูปแบบ บางวิธีอาศัยพลังของระบบธรรมชาติที่มีอยู่แล้วให้ทำงานได้เร็วขึ้น บางวิธีใช้เทคโนโลยีใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อดึงคาร์บอนโดยเฉพาะ หรืออาจผสานทั้งสองแนวทางเข้าด้วยกัน
จุดหมายปลายทางเหมือนกันทั้งหมด คือดึงคาร์บอนออกจากชั้นบรรยากาศในปริมาณที่ขยายผลได้จริง และเก็บกักไว้ให้ปลอดภัยได้นานหลายปี ผู้พัฒนาเทคโนโลยีเหล่านี้คือกลุ่มคนที่คิดค้นนวัตกรรมล้ำยุค และกำลังสร้างความเปลี่ยนแปลงต่อโลกใบนี้ในระดับที่มีนัยสำคัญ
และต่อไปนี้คือตัวอย่างรายชื่อบริษัทที่กำลังพัฒนางานด้านนี้อย่างจริงจัง
Grassroots Carbon
Grassroots Carbon คือแพลตฟอร์มที่เชื่อมธุรกิจที่ต้องการซื้อเครดิตการกำจัดคาร์บอน เข้ากับเจ้าของที่ดินที่ได้รับการรับรอง และสามารถขายบริการกักเก็บคาร์บอนในดินตามธรรมชาติได้
โครงการนี้อยู่ภายใต้แผน Decade subscription plan
Running Tide
Running Tide กำลังพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยฟื้นฟูและเร่งกระบวนการตามธรรมชาติในมหาสมุทร เพื่อให้มหาสมุทรทำหน้าที่เป็นแหล่งดูดซับคาร์บอนตามธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดของโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนผ่านแผน Century และ Millennium subscription plans
Remora
เทคโนโลยีแบบกะทัดรัดและเคลื่อนที่ของ Remora สามารถดักจับคาร์บอนได้อย่างน้อย 80% จากท่อไอเสียของรถบรรทุกกึ่งพ่วง จากนั้นคาร์บอนที่ถูกดักจับจะถูกขายให้ผู้ใช้งานปลายทางเพื่อนำไปกักเก็บในระยะยาว
โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนผ่านแผน Century และ Millennium subscription plans
Heirloom
เทคโนโลยีดักจับคาร์บอนโดยตรงจากอากาศของ Heirloom ทำให้กระบวนการทำให้คาร์บอนจับตัวเป็นแร่เกิดขึ้นเร็วขึ้น โดยใช้แร่ธรรมชาติซึ่งถือเป็นหนึ่งในแหล่งดูดซับคาร์บอนสำคัญของโลก วิธีนี้ช่วยให้ดูดซับ CO₂ จากอากาศได้ภายในไม่กี่วัน แทนที่จะต้องรอนานหลายปี
โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนผ่านแผน Century และ Millennium subscription plans
Planetary
เทคโนโลยีของ Planetary ช่วยเร่งกระบวนการกำจัดคาร์บอนตามธรรมชาติในชั้นบรรยากาศ โดยการเติม “สารด่างปลอดภัย” ลงในพื้นที่มหาสมุทรบางส่วน วิธีการผลิตสารด่างจากกากแร่ของพวกเขายังสร้างไฮโดรเจนสีเขียวและโลหะสำหรับทำแบตเตอรี่ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการลดการปล่อยคาร์บอนจากภาคขนส่ง
โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนผ่านแผน Century และ Millennium subscription plans
Charm
Charm ใช้พืชเป็นตัวช่วยดูดซับ CO₂ จากอากาศ ก่อนแปรรูปชีวมวลให้กลายเป็นของเหลวที่อุดมด้วยคาร์บอนและมีความเสถียร จากนั้นจึงสูบเก็บไว้ใต้ดินลึก ทำให้ CO₂ ถูกนำออกจากบรรยากาศอย่างถาวร
โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนผ่านแผน Century และ Millennium subscription plans
การกำจัดคาร์บอนคือความท้าทายระดับไหนของประชากรโลก?
เพื่อไม่ให้อุณหภูมิโลกเพิ่มสูงเกิน 1.5°C ตามที่กำหนดไว้ในความตกลงปารีส ซึ่งเป็นตัวเลขสำคัญในการหลีกเลี่ยงผลกระทบที่รุนแรงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โลกจำเป็นต้องลดการปล่อยคาร์บอนสุทธิให้เป็นศูนย์ภายในปี 2050 และต้องดึงคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากชั้นบรรยากาศเพื่อนำไปกักเก็บอย่างจริงจังในเวลาเดียวกัน
แล้วเราต้องกำจัดคาร์บอนมากแค่ไหน? นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่า ภายในปี 2050 โลกต้องกำจัด CO₂ ออกจากชั้นบรรยากาศให้ได้มากถึง 10 กิกะตันต่อปี (1 กิกะตัน เท่ากับ 1,000,000,000 ตัน) และทั้งหมดนี้ยังต้องทำควบคู่กับการบรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ทั่วโลกด้วย
การจะไปถึงเป้าหมายนี้ได้ เราต้องสนับสนุนผู้ประกอบการและนักพัฒนาที่กำลังคิดค้นวิธีดึง CO₂ จากอากาศ ทั้งจากกระบวนการตามธรรมชาติและเทคโนโลยี เพราะแม้เทคโนโลยีจะมีอยู่แล้ว แต่การขยายให้ใช้งานได้ในระดับใหญ่ยังไม่เร็วพอ
และในขณะที่เทคโนโลยีกำลังพัฒนา โลกก็ยังได้รับผลกระทบจากสภาพภูมิอากาศอย่างต่อเนื่อง
Planet จึงเป็นหนึ่งในวิธีที่ร้านค้าสามารถช่วยเร่งงานวิจัยด้านการกำจัดคาร์บอนได้ พร้อมส่งสัญญาณให้ลูกค้าเห็นว่าแบรนด์ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนอย่างจริงจัง
คุณพร้อมที่จะช่วยผลักดันการกำจัดคาร์บอนหรือยัง?
ร่วมสนับสนุนเทคโนโลยีดักจับคาร์บอนที่มีศักยภาพสูงได้เลยตอนนี้ บนแอป Planet


