เคยสงสัยไหมว่าเวลาที่คุณเลือกซื้อเครื่องประดับตามร้านค้าออนไลน์ สินค้าเหล่านั้นมาจากไหน
ความจริงก็คือหลายร้านใช้วิธีดรอปชิปเครื่องประดับ หมายถึงพวกเขาไม่ได้ผลิตสินค้าเอง ไม่ได้เก็บของเอง และไม่ได้แพ็กของส่งเองด้วย แต่ใช้ซัพพลายเออร์ภายนอกมาจัดการทั้งหมด คุณแค่โฟกัสกับการทำตลาดและการบริการลูกค้า ส่วนพาร์ตเนอร์ดรอปชิปจะเป็นคนจัดการทุกอย่าง ตั้งแต่แพ็กของจนถึงส่งของให้ลูกค้า
การดรอปชิปช่วยให้คุณไม่ต้องวุ่นวายกับการสต็อกของหรือจัดส่งเอง แถมยังเริ่มขายได้เลยโดยไม่ต้องลงทุนซื้อของล่วงหน้า ถ้าอยากเริ่มต้นธุรกิจดรอปชิปเครื่องประดับแล้วล่ะก็ อ่านต่อได้ในบทความนี้เลย
ดรอปชิปเครื่องประดับทำอย่างไร
การดรอปชิปเครื่องประดับช่วยให้คุณดำเนินธุรกิจร้านขายเครื่องประดับออนไลน์ได้โดยไม่ต้องถือครองสต็อกสินค้า คุณสามารถคัดสรรสินค้าได้ด้วยตัวเองจากซัพพลายเออร์รายเดียวหรือหลายราย โดยที่ซัพพลายเออร์บางรายก็ผลิตเครื่องประดับเอง และบางรายทำหน้าที่เชื่อมต่อเจ้าของธุรกิจดรอปชิปเข้ากับแบรนด์ต่างๆ
เมื่อมีลูกค้าสั่งซื้อสินค้า ซัพพลายเออร์ดรอปชิปจะจัดส่งสินค้าโดยตรงจากคลังสินค้าของพวกเขา คุณในฐานะเจ้าของร้านออนไลน์จะเรียกเก็บเงินจากลูกค้าในราคาขายปลีก แล้วจ่ายให้ซัพพลายเออร์ในราคาขายส่งพร้อมค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่อาจเกี่ยวข้อง เช่น ค่าจัดส่งหรือค่าสมาชิกรายเดือน จากนั้นคุณจะเก็บส่วนต่างเป็นกำไร คุณจะจ่ายเงินก็ต่อเมื่อขายได้จริง จึงไม่ต้องลงทุนซื้อสต็อกสินค้าล่วงหน้า

ร้านดรอปชิปเครื่องประดับมีสินค้าหลากหลายประเภท ตั้งแต่เครื่องประดับทองและเพชรคุณภาพสูง ไปจนถึงเครื่องประดับแฟชั่นราคาย่อมเยา คุณสามารถเริ่มขายผ่านเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของตัวเองหรือแพลตฟอร์มต่างๆ อย่าง Etsy, eBay และ Amazon
ข้อดีของการดรอปชิปเครื่องประดับ
เจ้าของร้านค้าออนไลน์จำนวนมากพบว่าดรอปชิปเป็นหนึ่งในวิธีที่เริ่มต้นธุรกิจเครื่องประดับได้ง่ายที่สุด นี่คือเหตุผลที่ทำให้เป็นที่นิยม
ต้นทุนเริ่มต้นต่ำ
ร้านดรอปชิปไม่ต้องซื้อสินค้าสต็อกไว้ล่วงหน้าจากซัพพลายเออร์ คุณจ่ายเงินก็ต่อเมื่อขายได้จริง และเพราะพาร์ตเนอร์ขายส่งเป็นคนเก็บและส่งสินค้าให้ คุณเลยไม่ต้องลงทุนกับพื้นที่เก็บของหรือวุ่นวายกับการจัดการสต็อกเอง ต่างจากการขายเครื่องประดับแบบดั้งเดิม
มีตัวเลือกสินค้ามากมาย
ในฐานะร้านดรอปชิปเครื่องประดับ คุณสามารถจับมือกับซัพพลายเออร์หลายรายเพื่อขายสินค้าที่หลากหลายได้ เช่น อาจมีซัพพลายเออร์ที่เชี่ยวชาญด้านเครื่องประดับโรสโกลด์อีกรายเน้นเครื่องประดับเงินแท้ และอีกรายขายสร้อยคอคริสตัล วิธีนี้ช่วยให้คุณเข้าถึงลูกค้าหลายกลุ่มได้จากหน้าร้านออนไลน์เดียวกัน
ตัวอย่างเช่น แบรนด์รองเท้า Larroudé ใช้ Shopify Collective ในการขายเครื่องประดับจากหลายแบรนด์ที่มีหลากหลายช่วงราคา
ที่มา: Larroudé
ปรับตัวตามเทรนด์ได้เร็ว
เพราะคุณจ่ายเงินให้ซัพพลายเออร์ต่อเมื่อขายได้จริง ไม่ต้องจ่ายล่วงหน้า คุณเลยปรับเปลี่ยนสินค้าที่จะขายได้ง่ายโดยไม่ต้องเสี่ยงกับของค้างสต็อก ความยืดหยุ่นแบบนี้ช่วยให้คุณตามเทรนด์เครื่องประดับใหม่ๆ ได้ตลอดเวลา
ลองติดตามเทรนด์เครื่องประดับด้วยการดูว่าสินค้าของคู่แข่งเป็นยังไง ติดตามอินฟลูเอนเซอร์แฟชั่นในโซเชียลมีเดีย และสมัครรับจดหมายข่าวเกี่ยวกับเครื่องประดับและแฟชั่นไว้ด้วย
สินค้าแพ็กง่ายจัดส่งสะดวก
เครื่องประดับเหมาะกับการทำดรอปชิปเพราะมีขนาดเล็ก ทำให้มีค่าจัดส่งต่ำ คุณจึงสามารถเสนอการจัดส่งฟรีได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นแรงจูงใจที่ดีในการกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อ
นอกจากนี้ยังทำให้การทำตลาดสินค้าของคุณง่ายขึ้น เช่น ถ้าคุณต้องการสร้างวิดีโอสั้นสำหรับ TikTok หรือ Instagram การสั่งตัวอย่างสินค้ามาถ่ายทำก็จะมีค่าใช้จ่ายถูกลงเพราะค่าจัดส่งต่ำกว่า
ความท้าทายของการดรอปชิปเครื่องประดับ
- การหาซัพพลายเออร์ที่น่าเชื่อถือ
- การแข่งขันสูงมาก
- ไม่สามารถปรับแต่งสินค้าได้
- ระยะเวลาการจัดส่งนานขึ้น
นี่คือสิ่งที่ควรพิจารณาก่อนเริ่มต้นธุรกิจดรอปชิปเครื่องประดับ
การหาซัพพลายเออร์ที่น่าเชื่อถือ
ร้านดรอปชิปเครื่องประดับมักจะเจอความยากลำบากในการหาซัพพลายเออร์ที่เชื่อถือได้ ซึ่งจัดส่งสินค้าคุณภาพสูงในราคาที่สมเหตุสมผล เมื่อเจอซัพพลายเออร์ที่ไว้วางใจได้ บางครั้งอาจมีค่าธรรมเนียมสมาชิกหรือกำหนดขั้นต่ำในการสั่งซื้อ
แพลตฟอร์มดรอปชิปบางแห่งมีรีวิวลูกค้าน้อย ทำให้เสี่ยงขายสินค้าคุณภาพต่ำหรือของปลอมได้ วิธีหลีกเลี่ยงคือการเชื่อมต่อกับแบรนด์ Shopify ที่ได้รับการตรวจสอบแล้ว ซึ่งช่วยให้คุณได้ร่วมงานกับแบรนด์เครื่องประดับอิสระโดยตรง และคัดสรรคอลเล็กชันเหมาะๆ มาขายในร้านของคุณ
การแข่งขันสูงมาก
เมื่อการดรอปชิปได้รับความนิยมมากขึ้น ผู้ประกอบการหลายรายจึงเปิดร้านดรอปชิปเครื่องประดับบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเฉพาะทางหรือบนตลาดออนไลน์ อย่าง Amazon และ Etsy โดยขายสินค้าตั้งแต่พวงกุญแจพลอยจนถึงต่างหูทองคำ
เพื่อให้โดดเด่นเหนือคู่แข่ง คุณต้องหาจุดได้เปรียบ เช่น การคัดสรรสินค้าที่ดีเยี่ยม การจัดส่งที่รวดเร็ว ราคาที่แข่งขันไม่ได้ หรือคุณภาพสินค้าชั้นยอด
ไม่สามารถปรับแต่งสินค้าได้
ลูกค้ามักซื้อเครื่องประดับเพื่อเฉลิมฉลองโอกาสพิเศษอย่างวันเกิด การสำเร็จการศึกษา หรือการหมั้น และหลายคนอาจต้องการปรับแต่งเครื่องประดับให้เหมาะกับแต่ละโอกาส ไม่ว่าจะเป็นการสลักชื่อบนสร้อยข้อมือหรือการปรับขนาดแหวนแต่งงาน ร้านที่ผลิตสินค้าเองสามารถเสนอความยืดหยุ่นในการปรับแต่งได้มากกว่าร้านดรอปชิป ซึ่งสามารถขายได้เฉพาะสินค้าที่ซัพพลายเออร์มีให้
ถ้าคุณอยากขายเครื่องประดับแบบปรับแต่งได้ อาจพิจารณาใช้ระบบพิมพ์ตามสั่ง ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของดรอปชิปที่เน้นการปรับแต่งสินค้าเป็นหลัก
ระยะเวลาจัดส่งนานขึ้น
ซัพพลายเออร์ดรอปชิปจำนวนมากตั้งอยู่ในต่างประเทศ ซึ่งอาจทำให้ระยะเวลาการจัดส่งนานกว่าสินค้าที่ส่งจากคลังสินค้าในประเทศที่ดำเนินการโดยพาร์ตเนอร์โลจิสติกส์ในประเทศเดียวกัน ควรแจ้งเรื่องนี้อย่างชัดเจนในหน้าสินค้า การแสดงเวลาจัดส่งโดยประมาณจะช่วยให้ลูกค้ารู้ล่วงหน้าและสร้างความเชื่อมั่นให้กับร้านของคุณ
วิธีเริ่มต้นดรอปชิปปิ้งเครื่องประดับ
- เลือกตลาดเฉพาะกลุ่ม
- ค้นหาซัพพลายเออร์
- สร้างเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของคุณ
- เชื่อมต่อร้านกับซัพพลายเออร์
- ทำการตลาดธุรกิจเครื่องประดับของคุณ
1. เลือกตลาดเฉพาะกลุ่ม
เครื่องประดับมีหลากหลายวัสดุและสไตล์ ตั้งแต่ชิ้นเล็กเรียบหรูไปจนถึงชิ้นใหญ่สะดุดตา จากคลาสสิกไปจนถึงแนวจัดจ้าน แทนที่จะพยายามขายทุกอย่าง ลองโฟกัสที่วัสดุหรือสไตล์ใดสไตล์หนึ่ง การหาตลาดเฉพาะกลุ่มจะช่วยให้ทำการตลาดได้ง่ายขึ้น เพราะสามารถเจาะจงกลุ่มลูกค้าได้ชัดเจน
การหากลุ่มเฉพาะอาจเริ่มจากสไตล์ส่วนตัวหรือความรู้ที่คุณมี ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณมีคอลเลกชันเครื่องประดับเงินมินิมอลอยู่แล้ว และรู้ว่าจะดูคุณภาพหรือเทรนด์จากตรงไหน ก็ใช้จุดแข็งนั้นต่อยอดได้เลย
อีกทางหนึ่งคือเลือกกลุ่มเฉพาะตามกลุ่มเป้าหมาย ลองมองหาช่องว่างในตลาด หรือโฟกัสกับชุมชนที่คุณรู้จักดี เช่น คุณอาจสังเกตว่านักกีฬาต้องการเครื่องประดับที่ใส่ออกกำลังกายได้ ราคาไม่แพงและทนเหงื่อ หรือบางทีคุณเองก็เป็นนักกีฬาและรู้ดีว่าเครื่องประดับแบบไหนใส่แล้วไม่เกะกะเวลาออกแรงวิ่งหรือยกเวท
2. ค้นหาซัพพลายเออร์
ซัพพลายเออร์ดรอปชิปมีให้เลือกมากมาย แต่การหาคนที่ใช่สำหรับร้านของคุณอาจไม่ง่ายนัก ลองพิจารณาวิธีเหล่านี้
- ติดต่อผู้ผลิตโดยตรง: ถ้าคุณเจอสินค้าที่อยากขาย ให้ติดต่อผู้ผลิตแล้วขอรายชื่อผู้จัดจำหน่ายขายส่ง จากนั้นโทรหาผู้จัดจำหน่ายเหล่านั้นเพื่อสอบถามว่ารองรับการดรอปชิปหรือไม่
- ค้นหาทางออนไลน์: ลองเสิร์ชหาซัพพลายเออร์ดรอปชิปเครื่องประดับใน Google โดยใช้คำค้นอย่างเช่น “reseller” “bulk” หรือ “wholesaler” เว็บไซต์ของพาร์ตเนอร์ดรอปชิปบางแห่งอาจไม่ได้ดูสวยหรูเหมือนเว็บขายปลีก แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเชื่อถือไม่ได้เสมอไป
- ไปงานแสดงสินค้าเครื่องประดับ: งานแฟร์พวกนี้ช่วยให้คุณค้นหาสินค้าที่น่าสนใจมาขาย และยังเป็นโอกาสดีในการสร้างความสัมพันธ์กับพาร์ตเนอร์ดรอปชิปในอนาคต
- เชื่อมต่อกับแบรนด์ที่มีอยู่แล้ว: จับมือกับแบรนด์บน Shopify เพื่อขายสินค้าจากบริษัทเครื่องประดับที่ผ่านการตรวจสอบ มีชื่อเสียง และมีมาตรฐานคุณภาพที่เชื่อถือได้
3. สร้างเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของคุณ
วิธีเริ่มต้นดรอปชิปที่เร็วที่สุดคือใช้เครื่องมือสร้างเว็บไซต์แบบไม่ต้องเขียนโค้ดอย่าง Shopify ในการเปิดร้าน คุณจะต้องทำสิ่งต่อไปนี้
- เลือกชื่อโดเมนที่ไม่ซ้ำใคร (Shopify มีเครื่องมือช่วยค้นหาโดเมนให้ใช้)
- อัปโหลดภาพสินค้าและคำอธิบายสินค้า (ซัพพลายเออร์ดรอปชิปมักมีข้อมูลเหล่านี้ให้คุณ)
- จัดกลุ่มสินค้าเป็นหมวดหมู่
- ตั้งค่าระบบรับชำระเงินผ่าน Shopify Payments
Shopify มีธีมสำหรับธุรกิจเครื่องประดับโดยเฉพาะ ทำให้คุณสามารถสร้างเว็บไซต์ที่ดูเป็นมืออาชีพได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องมีประสบการณ์ด้านการออกแบบมาก่อน
4. เชื่อมต่อร้านกับซัพพลายเออร์
แอปของ Shopify ช่วยให้เจ้าของร้านออนไลน์เชื่อมต่อกับซัพพลายเออร์ได้ง่ายขึ้น และทำให้การติดตามยอดขายเป็นระบบมากขึ้น
ติดตั้งแอปดรอปชิปที่คุณชอบจาก Shopify App Store เมื่อติดตั้งเสร็จแล้ว คุณก็สามารถเพิ่มสินค้าลงในร้าน Shopify ของคุณได้โดยตรง
ถ้าซัพพลายเออร์ไม่มีแอปบน Shopify อาจมีการให้ API key พร้อมคำแนะนำในการตั้งค่า เพื่อให้คุณเชื่อมต่อสินค้าเข้ากับร้านผ่านโค้ดได้
5. ทำการตลาดธุรกิจเครื่องประดับของคุณ
เมื่อคุณตั้งค่าเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซเสร็จแล้ว ก็ถึงเวลาบอกต่อ เริ่มจากการวางแผนการตลาดที่รวมถึงการสร้างภาพลูกค้าเป้าหมาย การวิเคราะห์ SWOT และการเลือกช่องทางการตลาด เช่น โซเชียลมีเดีย อีเมล และสื่อสิ่งพิมพ์ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าอย่างครบถ้วน
สร้างโปรไฟล์โซเชียลมีเดียสำหรับร้านของคุณ การทำตลาดผ่านโซเชียลมีเดียช่วยให้เข้าถึงคนจำนวนมากโดยไม่ต้องลงทุนมากตั้งแต่แรก และควรใส่ใจการทำ SEO เพื่อช่วยให้ร้านของคุณขึ้นไปอยู่ในอันดับต้นๆ ของผลการค้นหา
กระตุ้นให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์สมัครรับข่าวสารทางอีเมล กลยุทธ์การตลาดผ่านอีเมลที่ดีจะรวมถึงอีเมลอัตโนมัติ ข้อเสนอโปรโมชั่น และจดหมายข่าวสำหรับแชร์ข้อมูล ความเคลื่อนไหวของบริษัท และอื่นๆ ซึ่งช่วยให้คุณสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง
6 ซัพพลายเออร์ดรอปชิปเครื่องประดับชั้นนำ
ร้านดรอปชิปเครื่องประดับที่ประสบความสำเร็จมักพึ่งพาพาร์ตเนอร์ด้านการจัดส่งที่สามารถจัดหาสินค้าที่ดีที่สุด จัดส่งรวดเร็ว และคิดค่าบริการในราคาที่เหมาะสม ร้านดรอปชิปหลายแห่งนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเพื่อลดต้นทุน ขณะที่บางร้านเน้นซัพพลายเออร์ในประเทศเพื่อการจัดส่งที่รวดเร็วกว่า
นี่คือซัพพลายเออร์ดรอปชิปที่น่าสนใจ
1. Shopify Collective
ที่มา: Larroudé
Shopify Collective คือแอปดรอปชิปสำหรับร้าน Shopify ที่ผ่านการรับรองในสหรัฐฯ และแคนาดา แอปนี้ช่วยให้คุณเชื่อมต่อกับแบรนด์เครื่องประดับที่มีชื่อเสียงโดยตรง เพื่อขายสินค้าของพวกเขาในร้านของคุณ คุณทำหน้าที่ตลาด ลงสินค้า และขายสินค้า ส่วนพาร์ตเนอร์จะดูแลเรื่องการจัดส่งสินค้า
นี่เป็นตัวเลือกที่ดีถ้าคุณต้องการขายสินค้าคุณภาพสูงและมีเอกลักษณ์จากแบรนด์ที่รู้จัก แทนที่จะขายสินค้าแบบดรอปชิปทั่วไป
บนแพลตฟอร์ม Shopify Collective มีแบรนด์เครื่องประดับที่ได้รับการยอมรับหลายแบรนด์ เช่น Adlina Reyter, Ariel Gordon, RENNA, Stephanie Gottlieb และ Lizzie Fortunato หากคุณอยากร่วมงานกับแบรนด์ที่ยังไม่อยู่บนแพลตฟอร์ม คุณสามารถเชิญพวกเขามาร่วมได้
เมื่อเลือกซัพพลายเออร์ได้แล้ว Shopify Collective ยังช่วยจัดการพาร์ตเนอร์ของคุณได้ง่ายขึ้นด้วยฟีเจอร์อย่างการซิงก์สต็อกแบบเรียลไทม์ และการนำเข้าสินค้าจำนวนมาก
ราคา: ใช้งานฟรีเมื่อสมัครสมาชิก Shopify
ทดลองใช้ฟรี: Shopify มีให้ทดลองใช้ฟรี
2. Syncee
ที่มา: Syncee
Syncee คือแพลตฟอร์มดรอปชิปที่เชื่อมต่อกับ Shopify ซึ่งมีสินค้าหลากหลายตั้งแต่เครื่องประดับประดับคริสตัลจนถึงเครื่องประดับเงินสเตอร์ลิง สินค้าบางส่วนมาจากซัพพลายเออร์โดยตรงของ Syncee แต่เหมือนกับ Shopify Collective คุณยังสามารถเชื่อมต่อกับแบรนด์เครื่องประดับที่มีชื่อเสียงได้ด้วย
คุณสามารถกรองสินค้าตามประเภทสินค้า สถานที่ซัพพลายเออร์ ระยะเวลาจัดส่ง และอื่นๆ ซัพพลายเออร์บางรายอาจต้องได้รับการอนุมัติก่อนที่คุณจะลงรายการขายสินค้าได้
คุณจะต้องสมัครบัญชีเพื่อดูรายละเอียดราคา
ราคา: ใช้งานฟรีเมื่อสมัครสมาชิก Shopify
ทดลองใช้ฟรี: มีทดลองใช้งานฟรีจาก Shopify
3. Spocket
ที่มา: Spocket
Spocket เป็นแพลตฟอร์มที่พบได้ใน Shopify App Store มีเครือข่ายซัพพลายเออร์ทั่วโลกโดยเน้นที่สหรัฐอเมริกาและยุโรป แม้ว่า Spocket จะไม่ใช่แพลตฟอร์มเฉพาะเครื่องประดับ แต่ก็มีซัพพลายเออร์ที่นำเสนอเครื่องประดับราคาประหยัด
Spocket เชื่อมต่อกับ Shopify ทำให้คุณจัดการธุรกิจดรอปชิปได้จากที่เดียว นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับสินค้าบน AliExpress และจัดการทั้งสองแพลตฟอร์มผ่านแอปได้
เว็บไซต์อนุญาตให้ดูราคาบางรายการโดยไม่ต้องล็อกอิน แต่ถ้าต้องการดูรายละเอียดสินค้าลึกๆ จะต้องเริ่มทดลองใช้ฟรี 14 วัน
ราคา: เริ่มต้นที่ประมาณ 1,360 บาทต่อเดือน
ทดลองใช้ฟรี: มีทดลองใช้งานฟรี
4. Richard Cannon Jewelry
ที่มา: Richard Cannon Jewelry
Richard Cannon Jewelry เป็นผู้ค้าส่งที่มีโปรแกรมดรอปชิปด้วย บริษัทนี้เชี่ยวชาญด้านเครื่องประดับชั้นดี รวมถึงสินค้าที่ทำจากทอง เงิน และเพชร
แม้ว่าจะมีค่าบริการรายเดือน แต่ไม่มีข้อกำหนดเรื่องยอดสั่งซื้อขั้นต่ำ คุณจะต้องสมัครบัญชีเพื่อดูราคา แต่ระบบกรองสินค้าช่วยให้คุณค้นหาตามประเภทโลหะ พลอย และสไตล์ได้ง่ายขึ้น
Richard Cannon Jewelry ไม่มีแอปบน Shopify แต่คุณสามารถเชื่อมต่อกับร้าน Shopify ของคุณผ่าน API พร้อมคำแนะนำการตั้งค่าจากบริษัท
ราคา: ประมาณ 1,020 บาทต่อเดือน
ทดลองใช้ฟรี: เดือนแรกราคา 1 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 32 บาท)
5. AliExpress
ที่มา: AliExpress
AliExpress คือแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซจากประเทศจีนและเป็นบริษัทในเครือของ Alibaba
บริษัทนี้มีชื่อเสียงเรื่องสินค้าราคาถูก แต่ด้วยเครือข่ายซัพพลายเออร์ที่แข็งแกร่งทำให้การดรอปชิปกับ AliExpress เป็นเรื่องง่าย คุณภาพสินค้าจะแตกต่างกันไป จึงควรตรวจสอบรีวิวสินค้ารวมถึงรีวิวผู้ขายก่อนเพิ่มสินค้าลงในร้าน AliExpress ยังให้คุณกรองการค้นหาตามราคาและจำนวนการขายได้ด้วย
เมื่อเลือกสินค้าที่ต้องการขายได้แล้ว คุณสามารถนำเข้าสินค้าไปยังร้านของคุณ เมื่อลูกค้าสั่งซื้อ คุณสามารถสั่งซื้อสินค้าบน AliExpress ด้วยตัวเอง หรือจะติดตั้งแอปอย่าง DSers เพื่อทำงานอัตโนมัติ DSers ยังแจ้งเตือนคุณเมื่อราคาสินค้าเปลี่ยนหรือสินค้าหมดสต็อกได้ด้วย
ราคา: ฟรี
ทดลองใช้ฟรี: ไม่จำเป็น เพราะ AliExpress ใช้งานได้ฟรีอยู่แล้ว
6. Trendsi
ที่มา: Trendsi
Trendsi คือผู้ค้าส่งและแพลตฟอร์มดรอปชิปที่เน้นแฟชั่น ซึ่งมีเครื่องประดับราคาย่อมเยาร่วมกับเสื้อผ้า มีแอป Shopify ที่ช่วยให้เชื่อมต่อกับร้านของคุณได้ง่าย นอกจากนี้ Trendsi ยังมีบริการเลเบิลส่วนตัว ระบบพิมพ์ตามสั่ง และมีนโยบายคืนสินค้าฟรีภายในเจ็ดวัน
คุณสามารถกรองสินค้าตามสไตล์ ประเภทสินค้า สถานที่จัดส่ง ระยะเวลาจัดส่ง จำนวนสต็อก และอื่นๆ ราคาของสินค้ากว่า 2,800 รายการแสดงให้เห็นได้โดยไม่ต้องสมัครบัญชี และการจัดส่งรวดเร็ว มักใช้เวลาประมาณสองถึงสิบวัน
สินค้าบางรายการของ Trendsi อาจมีราคาถูกกว่าที่อื่น แต่ความสะดวกและความรวดเร็วในการจัดส่งอาจทำให้ราคาที่สูงกว่าคุ้มค่า
ราคา: ไม่มีค่าบริการรายเดือนหรือยอดสั่งซื้อขั้นต่ำ
ทดลองใช้ฟรี: ไม่จำเป็น เพราะ Trendsi ใช้งานได้ฟรี
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการดรอปชิปเครื่องประดับ
ดรอปชิปครื่องประดับ ทำกำไรได้หรือไม่?
เครื่องประดับสามารถทำกำไรได้สำหรับการดรอปชิป เพื่อให้ได้กำไรควรเลือกซัพพลายเออร์ที่ตั้งราคาสมเหตุสมผล ควบคุมค่าใช้จ่ายรายเดือน และตรวจสอบว่ายอดขายครอบคลุมขั้นต่ำในการสั่งซื้อของซัพพลายเออร์
เครื่องประดับขายดีบน Shopify หรือไม่?
มีร้านเครื่องประดับที่ประสบความสำเร็จบน Shopify หลายร้าน เช่น Missoma และ Mejuri ร้านที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่จะออกแบบเครื่องประดับเอง แต่คุณก็สามารถประสบความสำเร็จด้วยการดรอปชิปโดยคัดสรรสินค้าคุณภาพดีได้เช่นกัน
แพลตฟอร์มไหนเหมาะสำหรับขายเครื่องประดับ?
Shopify เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ดีที่สุดสำหรับขายเครื่องประดับ เพราะช่วยให้คุณออกแบบหน้าร้านเองและไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมตลาดเหมือนแพลตฟอร์มอย่าง Etsy และ eBay ที่คิดค่าธรรมเนียมต่อการขาย


