การบอกว่าอุตสาหกรรมร้านอุปกรณ์ฟิตเนสออนไลน์กำลังเติบโตพุ่งกระฉูดคงเป็นการพูดที่ดูน้อยกว่าความเป็นจริง
ธุรกิจหลากหลายประเภทเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทั้งหน้าใหม่และแบรนด์เก่าต่างฉวยโอกาสจากความนิยมสูงสุดของอุปกรณ์ฟิตเนส เสื้อผ้า อาหารเสริม และอาหารธรรมชาติ
แน่นอนว่าเมื่อความต้องการสูง การแข่งขันก็สูงตามไปด้วย ร้านขายอุปกรณ์ฟิตเนสออนไลน์มีอยู่ทุกที่ รวมถึงบัญชี Instagram ของฟิตเนสและอินฟลูเอนเซอร์ก็เช่นกัน โลกนี้เต็มไปด้วยโอกาส แต่ธุรกิจต้องมีเว็บไซต์ที่คล่องตัวและปรับขนาดได้ง่าย เพื่อให้ตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
บทความนี้จะแชร์ตัวอย่างแบรนด์ร้านอุปกรณ์ฟิตเนสออนไลน์ที่ทำได้แบบนั้น แต่ก่อนอื่น เรามาทำความเข้าใจกับสภาพตลาดร้านอุปกรณ์ฟิตเนสออนไลน์กันก่อน
ตลาดอุปกรณ์ฟิตเนสอออนไลน์
ตลาดฟิตเนสออนไลน์ทั่วโลกเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผู้คนที่ต้องอยู่บ้านโดยไม่สามารถไปฟิตเนสหรือชมรมออกกำลังกายได้ ทำให้ธุรกิจที่ให้บริการจัดส่งอุปกรณ์ฟิตเนสถึงบ้านและบริการฟิตเนสแบบเสมือนจริงเติบโตอย่างรวดเร็ว
แม้กระทั่งปัจจุบัน การสำรวจล่าสุดพบว่าประมาณ 56% ของผู้ตอบแบบสอบถามยังคงชอบโปรแกรมออกกำลังกายที่ทำได้ที่บ้าน การเติบโตของตลาดยังคงดำเนินต่อไป ในปี 2023 ตลาดมีมูลค่า 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) 39.4% ในปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะพุ่งขึ้นถึง 7.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2027
ภูมิภาคอเมริกาเหนือเป็นผู้นำตลาดออนไลน์ด้านฟิตเนส ครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุด ฟิตเนสถือเป็นอุตสาหกรรมใหญ่ที่มีหลายซับหมวดหมู่ ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันการเติบโต ได้แก่
- การเน้นเรื่องการแพทย์เชิงแม่นยำและการรักษาแบบเฉพาะบุคคลมากขึ้น
- การขยายตัวขององค์กรด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีในอเมริกาเหนือ
- การใช้สมาร์ทดีไวซ์สำหรับกิจกรรมฟิตเนสที่เพิ่มมากขึ้น
- การเปลี่ยนไปสู่ดิจิทัลอย่างรวดเร็วในรูปแบบคลาสออนไลน์และแอปมือถือเชิงโต้ตอบ
- ความสนใจที่เพิ่มขึ้นในประสบการณ์ฟิตเนสแบบ AR และ VR
กล่าวคือ นี่ไม่ใช่แค่การเติบโตของฟิตเนสแบบเข้าฟิตเนสเฉพาะในอเมริกาเหนือเท่านั้น แต่เป็นการเติบโตที่ครอบคลุมทั้งประสบการณ์ออนไลน์และออฟไลน์ในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยด้วย
ในโลกฟิตเนสแบบตรงสู่ผู้บริโภค (DTC) เทรนด์ที่กำลังมาแรงและควรจับตา ได้แก่
- อุปกรณ์เทคโนโลยีแบบสวมใส่ เช่น สมาร์ทวอทช์และรองเท้าอัจฉริยะ
- ยิมที่บ้านและอุปกรณ์ฟิตเนสยังคงได้รับความนิยม
- เทรนเนอร์ส่วนตัวเสมือนจริงพร้อมบริการแบบสมัครสมาชิก
- การใช้ชุมชนเพื่อสร้างความต้องการและความสนใจในผลิตภัณฑ์หรือบริการฟิตเนส
- การทำให้การออกกำลังกายสนุกเหมือนเกมผ่านแอปฟิตเนสดิจิทัล
ร้านขายอุปกรณ์ฟิตเนสออนไลน์ครอบคลุมเกือบทุกด้านของอุตสาหกรรม ตั้งแต่สินค้าจริงจนถึงประสบการณ์เสมือนจริง ธุรกิจที่สามารถหาช่องทางเฉพาะ สร้างชุมชน และตอบสนองความต้องการเหล่านี้ มีโอกาสเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ทั้งตอนนี้และในอนาคต
14 ตัวอย่างร้านขายอุปกรณ์ฟิตเนสออนไลน์
Gymshark: จากโลกออนไลน์สู่ชีวิตจริง
คุณจะสร้างฐานลูกค้าที่ภักดีนับล้านคนใน 131 ประเทศได้อย่างไร?
ถ้าคุณคือ Gymshark ขั้นแรก สร้างการมีตัวตนออนไลน์แบบหลายช่องทาง ครอบคลุมทั้งโซเชียลมีเดียและประสบการณ์บนเว็บไซต์ พร้อมกับเอกลักษณ์แบรนด์ที่สอดคล้องกัน จนได้เสียงชื่นชมจาก Sheryl Sandberg ระหว่างการประกาศผลประกอบการของ Facebook (จริงๆ นะ!)
จากนั้นก็นำประสบการณ์ออนไลน์นี้มาเชื่อมกับโลกจริง
Gymshark เชี่ยวชาญศิลปะของการค้าระหว่างออนไลน์และออฟไลน์ (O2O) ด้วยการจัดร้านป๊อปอัปทั่วโลก ภายในป๊อปอัปเหล่านี้มีการพบปะกับผู้เชี่ยวชาญฟิตเนสและอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง รวมถึงขายสินค้าแบบจริงๆ ให้ลูกค้าได้สัมผัสด้วยตัวเอง
Gymshark โปรโมตร้านป๊อปอัปของตนที่กระจกหน้าร้าน
“มันคือประสบการณ์ของลูกค้าที่ไม่มีใครเทียบได้” Daniel Knight ผู้จัดการเว็บไซต์ของ Gymshark กล่าว “เป็นการเชื่อมช่องว่างระหว่างโลกดิจิทัลและโลกจริง และสร้างประสบการณ์ทางอารมณ์ที่ลูกค้าไม่สามารถมีได้เพียงแค่ทางออนไลน์”
Crossrope: ปรับแพลตฟอร์มไปพร้อมกับการเติบโต
คุณสามารถสร้างโปรแกรมฟิตเนสและแบรนด์รอบเชือกกระโดดได้หรือไม่ Crossrope ทำได้ และแบรนด์ก็เติบโตอย่างก้าวกระโดดด้วย
เมื่อผู้คนเริ่มออกกำลังกายที่บ้านมากขึ้น ทีมงานของ Crossrope เห็นโอกาสในการขยายฐานลูกค้าและโปรโมตการออกกำลังกายง่ายๆ ที่ทำได้ที่บ้าน
กิจวัตร Crossrope ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วและมียอดขายพุ่งสูง แต่ทีมงานไม่มั่นใจว่าแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเดิมจะรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นได้หรือไม่
“แม้ว่าการเปลี่ยนแพลตฟอร์มในช่วงที่ยอดขายสูงเป็นเรื่องเสี่ยง … แต่ผลตอบแทนก็คุ้มค่า และวันนี้เราพร้อมสำหรับการเติบโตในตลาดต่างประเทศอย่างมหาศาล” Srdjan Popovic หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดกล่าว ด้วย Shopify Crossrope มีรายได้เพิ่มขึ้น 90% และจำนวนธุรกรรมเพิ่มขึ้น 94%
ภาพถ่ายหน้าจอโฮมเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซฟิตเนสของ Crossrope
ข้อคิดสำคัญก็คือ ไม่มีช่วงเวลาที่สมบูรณ์แบบในการลงทุนเพื่อความสำเร็จในอนาคตของบริษัทอีคอมเมิร์ซของคุณ ไม่ว่าวิกฤติหรือความเจ็บปวดจากการเติบโตที่ธุรกิจของคุณกำลังเผชิญอยู่ จะต้องไม่ทำให้คุณหยุดเตรียมตัวสำหรับการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่บางทีอาจเป็นสิ่งที่คุณต้องการเพื่อกระตุ้นการเติบโตนั้นก็ได้นะ
BPI Sports: เสริมความแข็งแกร่งช่องทาง D2C
ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ของ BPI Sports สามารถพบได้บนชั้นวางของร้านค้าที่เป็นฝันของแบรนด์ฟิตเนสทุกแห่ง เช่น GNC, Vitamin World และ The Vitamin Shoppe เป็นต้น แบรนด์อาหารเสริมจากฟลอริดานี้มีชื่อเสียงในฐานะบริษัทขายส่ง โดยยอดขาย B2B ของพวกเขาคิดเป็นส่วนใหญ่ของรายได้ประจำปี
อย่างไรก็ตาม BPI Sports ต้องการเสริมความแข็งแกร่งให้ช่องทาง D2C ของตน ทีมงานยังต้องการพัฒนาเอกลักษณ์ของแบรนด์ BPI Sports ให้มากกว่าแค่ผลิตภัณฑ์ที่คุณเห็นบนชั้นวางของร้านอื่น
บริษัทมีเว็บไซต์อยู่แล้ว แต่ค่าใช้จ่ายในการพัฒนาสูงกว่า 6,000 ดอลลาร์ และมอบประสบการณ์ที่ไม่ดีทั้งสำหรับลูกค้าและพนักงาน ซึ่งก็คือรถเข็นช้อปปิ้งออนไลน์มักจะล่ม และข้อมูลลูกค้าที่สำคัญก็ไม่เชื่อถือได้
“เมื่อคุณเติบโตเร็วมาก คุณก็พยายามที่จะผลักดันไปเรื่อยๆ แล้วก็ถึงจุดที่ธุรกิจของคุณโตเกินโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่” Oliver Haroun ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีของ BPI Sports กล่าว
เพื่อยกระดับธุรกิจ BPI Sports ต้องเปลี่ยนแนวทาง แทนที่จะพึ่งพาแพลตฟอร์มเดิมมากขึ้น ทีมงานตัดสินใจทำให้ช่องทาง D2C ของพวกเขาเรียบง่ายขึ้นด้วย Shopify
ภาพหน้าจอโฮม BPI Sports ที่สร้างขึ้นบน Shopify
ไม่เพียงแต่ทีมสามารถไว้วางใจแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหม่ของพวกเขาได้ แต่พวกเขายังสามารถทำการทดสอบฟีเจอร์ เปลี่ยนแปลงเว็บไซต์โดยไม่ต้องพึ่งพานักพัฒนา และเสนอผลิตภัณฑ์และชุดผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงมากขึ้น
ตอนนี้ BPI Sports ครองตลาดทั้งในฐานะผู้ค้าส่งและบริษัทอีคอมเมิร์ซ D2C
Altitude Sports: การค้นหาแบบคาดเดาพร้อมฟีเจอร์ภาพ
Altitude Sports เริ่มต้นจากการมีหน้าร้านในมอนทรีออลในช่วงปี 1980 ผ่านมาเกือบสี่ทศวรรษ บริษัทอุปกรณ์และเสื้อผ้าเอาต์ดอร์นี้ได้พัฒนาเป็นศูนย์กลางอีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่ที่สร้างรายได้หลายล้านดอลลาร์
อะไรทำให้ Altitude Sports ประสบความสำเร็จ คำตอบคือแบรนด์นี้เปิดกว้างต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกดิจิทัล
ร้านค้าปลีกส่วนใหญ่ที่เปิดร้านอิฐและปูนก่อนยุคอินเทอร์เน็ตมักล้มเหลวในการใช้ประโยชน์จากอีคอมเมิร์ซอย่างเต็มที่ พวกเขาพึ่งพาการบอกต่อปากต่อปากและการเดินเข้าร้านเพื่อเติบโตต่อไป
แต่ Altitude Sports ตัดสินใจเข้าร่วมการปฏิวัติเว็บไซต์และเปิดตัวเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของตัวเองในปี 1999 ตั้งแต่นั้นมา พวกเขาเติบโตและพัฒนาตามเทคโนโลยี ไม่ใช่ต่อต้านสวนกระแสมัน
หนึ่งในฟีเจอร์ที่เป็นนวัตกรรมที่สุดของเว็บไซต์ Altitude Sports คือฟีเจอร์การค้นหาด้วย SearchSpring ซึ่งเว็บไซต์สามารถแนะนำสินค้าโดยอัตโนมัติตามข้อความที่ลูกค้าพิมพ์ลงในแถบค้นหา ฟีเจอร์การค้นหานี้ยังมาพร้อมกับการจัดแสดงแบบภาพ ทำให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์สามารถเห็นตัวเลือกสินค้าก่อนที่จะคลิก
ภาพหน้าจอผลการค้นหาเสื้อยืดใน Altitude Sports
ถ้าคุณกำลังมองหาฟังก์ชันการค้นหาที่เหมาะกับธุรกิจอีคอมเมิร์ซของคุณ ลองอ่านบทความนี้ดู มันจะช่วยแนะนำคำถามที่ควรถามและฟีเจอร์ที่ควรมองหาได้อย่างเข้าใจง่าย
310 Nutrition: สร้างชุมชนสุขภาพด้วยอาหารเสริมทีละชนิด
ด้วยผู้ติดตามกว่า 1 ล้านคนบน Facebook และ Instagram โดยมี 415,000 คนเป็นสมาชิกกลุ่มปิดบน Facebook ของร้านขายอุปกรณ์ฟิตเนสออนไลน์แบรนด์ 310 Nutrition ได้สร้างชุมชนออนไลน์ที่เข้มแข็ง ช่วยให้สมาชิกมีกำลังใจและแรงบันดาลใจตลอดการเดินทางสู่สุขภาพและรูปร่างที่ดี
เวลาที่คุณพยายามดูแลสุขภาพหรือเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน มักรู้สึกว่าต้องละทิ้งของหวาน แต่ 310 Nutrition แบ่งปันสูตรของหวานอย่าง White Peppermint Mocha Shake หรือ Banana Peanut Butter Mocha Shake รวมถึงสมูทตี้สำหรับทุกเทศกาลและฤดูกาลตลอดทั้งปี ช่วยให้สมาชิกชุมชนรู้สึกพร้อมและมีอำนาจในการตัดสินใจเลือกสุขภาพดีขึ้นโดยไม่ต้องละทิ้งเมนูโปรด
ภาพหน้าจอของบล็อก 310 Nutrition ที่มีสูตรทำมิลค์เชค
ยิ่งไปกว่านั้น เว็บไซต์และแคมเปญของ 310 Nutrition ยังเต็มไปด้วยเนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้นเอง เช่น เรื่องราวความสำเร็จ รีวิว และภาพก่อน-หลัง เพื่อแสดงผลลัพธ์จริงจากผู้ใช้จริง
ภาพของหน้าเรื่องราวความสำเร็จของ 310 Nutrition บนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
รีวิวและเนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้นเป็นวิธีที่ดีในการกระตุ้นผู้เข้าชมที่ยังลังเล แบรนด์ฟิตเนสที่สามารถคาดการณ์ความยากลำบากของลูกค้าและให้การสนับสนุนผ่านแหล่งภายในหรือชุมชนออนไลน์ จะเห็นผลลัพธ์ที่ดีและความภักดีของลูกค้ามากขึ้น
NOBULL: ขายหมดเกลี้ยงตั้งแต่เปิดตัวสินค้าตอนเที่ยงคืน
เมื่อคุณต้องแข่งกับแบรนด์ระดับโลกอย่าง Nike, Reebok และ Adidas คุณต้องเล่นให้เต็มที่ และนี่คือสิ่งที่แบรนด์ฟิตเนส NOBULL ยังคงทำต่อไป คำขวัญของแบรนด์คือ “สำหรับคนที่ฝึกหนักโดยไม่หาเหตุผลมาแก้ตัว”
แน่นอนว่าการขายหมดเกลี้ยงตั้งแต่เปิดตัวสินค้ากลางดึกแบบนี้ ไม่มีข้อแก้ตัวสำหรับเว็บไซต์ล่มหรือปัญหาอื่นๆ
ภาพถ่ายหน้าจอ NOBULL แสดงผลิตภัณฑ์รองเท้าแต่ละรุ่นของแบรนด์
“เราจะเปิดตัวสินค้าทั้งหมดตอนเที่ยงคืน เพราะตอนนี้ความต้องการสูงกว่าปริมาณสินค้าอย่างมาก” Marcus Wilson ผู้ร่วมก่อตั้ง NOBULL กล่าว “นี่คือวิธีที่จะทำให้ลูกค้าที่ภักดีที่สุดของเรา ซึ่งก็คือคนที่พร้อมจะมาช้อปตอนเที่ยงคืน มีโอกาสได้สินค้าที่ต้องการมากที่สุด”
เพราะมีลูกค้าที่ภักดีเหล่านี้ บางครั้งรองเท้าก็ขายหมดก่อนที่คนส่วนใหญ่จะเช็คเอาท์ได้ แม้จะเป็นอย่างนั้น NOBULL ก็พิสูจน์ให้เห็นว่า การใช้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่สามารถขยายตัวตามความต้องการของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญ สิ่งเดียวที่ควรป้องกันไม่ให้ลูกค้าได้สินค้าคือปริมาณสินค้า ไม่ใช่เว็บไซต์ที่ล่ม
Boxraw:ใช้ระบบอัตโนมัติกับธุรกิจเพื่อไปโฟกัสกับวิสัยทัศน์
Ben Ammana ก่อตั้งร้านขายอุปกรณ์ฟิตเนสออนไลน์ Boxraw ด้วยวิสัยทัศน์ที่จะเปลี่ยนมุมมองของมวยให้เป็นมากกว่าการ “ต่อสู้ด้วยกำปั้น” เมื่อเขาเริ่มต้นบริษัทในปี 2017 นั้นเอง Ben ต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเองเกือบสองปีในช่วงที่พยายามขยายธุรกิจ
เมื่อทีม Boxraw ค่อยๆ เติบโต เขาตัดสินใจลงทุนกับ Shopify ในปี 2019 และในปี 2020 บริษัททำยอดขายได้ถึง 5.2 ล้านปอนด์ วันนี้แพลตฟอร์มนี้ไม่เพียงช่วยให้เขาอบรมพนักงานใหม่ได้เร็วขึ้น แต่ยังช่วยให้เขาอัตโนมัติหลายกระบวนการด้านการขายและการตลาด เพื่อให้ทีมสามารถโฟกัสกับรากฐานของ Boxraw “Boxing is Love” ได้
ตามเว็บไซต์ของ Boxraw “ผ่านการสร้างโปรแกรมมวยและยิม Boxrawใช้มวยเป็นเครื่องมือช่วยเด็กๆ เอาชนะปัญหาสังคม เราจะเปลี่ยนโลก ทีละประเทศ ด้วยถุงมือทีละคู่”
ภาพของหน้าแคตตาล็อก BoxRaw บนเว็บไซต์ของร้านซึ่งขายอุปกรณ์ฟิตเนสออนไลน์
Boxraw ไม่ได้เพียงแค่จัดหาอุปกรณ์ให้กับนักมวยที่ประสบความสำเร็จทั่วโลกเท่านั้น แต่ยังใช้บริษัทอีคอมเมิร์ซของตัวเองเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงให้กับไลบีเรียและประเทศอื่นๆ
Women’s Best: สร้างประสบการณ์ที่ปรับให้เหมาะสมสำหรับลูกค้าต่างประเทศ
Women’s Bes แบรนด์ที่เน้นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและวิตามินสำหรับผู้หญิง ได้สร้างชื่อเสียงระดับนานาชาติด้วยการสร้างร้านอีคอมเมิร์ซเฉพาะแต่ละประเทศ แบรนด์นี้มีทั้งหมด 10 ร้านที่ปรับแต่งให้เหมาะกับแต่ละภูมิภาค โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ Women’s Best ในภาษาท้องถิ่นและสกุลเงินของประเทศนั้นๆ
สิ่งที่น่าประทับใจยิ่งกว่าคือแบรนด์ขยายกลยุทธ์การปรับแต่งให้เหมาะกับท้องถิ่น ซึ่งรวมไปถึง Instagram ด้วย โดยลูกค้าในโปแลนด์ อิตาลี และตะวันออกกลางสามารถติดตามบัญชีในภาษาของตัวเองที่ลิงก์ไปยังร้านอีคอมเมิร์ซเฉพาะประเทศนั้นๆ ได้
ภาพหน้าจอ Instagram ของร้าน Women’s Best สำหรับแต่ละประเทศ
Women’s Best ยังมีบัญชีแยกสำหรับเสื้อผ้า Women’s Best Wear ด้วย การสร้างบัญชีเฉพาะกลุ่มเหล่านี้ช่วยให้ Women’s Best สามารถสร้างช่องทางลูกค้าเฉพาะตามตำแหน่งที่ตั้งหรือความสนใจของลูกค้าได้
หากเป้าหมายของคุณคือการเปิดร้านขายอุปกรณ์ฟิตเนสออนไลน์ขายทั่วโลก ให้สังเกตความแตกต่างของลูกค้าที่อาจส่งผลต่อวิธีที่คุณสื่อสารกับผู้ชม สำหรับ Women’s Best การมีบัญชี Instagram หลายบัญชีช่วยตอบสนองต่อความแตกต่างเหล่านั้นได้อย่างตรงจุด
Campus Protein: มุ่งไปที่กลุ่มเป้าหมายเพื่อสร้างชุมชน
Campus Protein ก่อตั้งโดยนักศึกษา เพื่อให้นักศึกษาเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก (จึงได้ชื่อแบรนด์นี้) แบรนด์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนี้เติบโตจากแคมปัสเดียวในปี 2010 ไปสู่ 300 แคมปัสภายในปี 2016 ผ่านโปรแกรม Campus Rep ที่ช่วยขยายการเข้าถึงอย่างรวดเร็ว
ทุกวันนี้ นอกจากตัวแทน Campus Rep จะได้รับค่าคอมมิชชั่นสูงสุด 12% แล้ว พวกเขายังช่วยให้ Campus Protein สามารถเข้าถึงนักศึกษาโดยตรง แทนที่จะขายผ่านชั้นวางทั่วไปในร้านค้า ทำให้สร้างความสัมพันธ์และชุมชนกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ภาพหน้าแรกของโปรแกรมตัวแทนจำหน่าย Campus Protein
นอกจากนี้ Campus Protein ยังสนับสนุนตัวแทนของตนให้เริ่มต้นและเติบโตในเส้นทางอาชีพ ไม่ว่าจะภายใน Campus Protein เองหรือผ่านงานเต็มเวลาที่อื่น
แนวทางนี้ทำให้แบรนด์สร้างชุมชนผู้สนับสนุน Campus Protein ที่มีความจงรักภักดีโดยไม่ตั้งใจ ช่วยให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ และตัวแทนเองก็ได้รับประโยชน์จากความสัมพันธ์นี้
SweetLegs: ความเรียบง่ายสร้างยอดขาย
SweetLegs ขายเลกกิ้งสำหรับผู้หญิงทุกรูปร่างและขนาด นอกจากผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมและครอบคลุมแล้ว สิ่งที่ทำให้แบรนด์แตกต่างคือการให้ความสำคัญกับความเรียบง่าย แทนที่จะซับซ้อนเหมือนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซแบบองค์กรทั่วไป
ในปี 2016 เว็บไซต์ SweetLegs ล่มในช่วงสุดสัปดาห์ช็อปปิ้งที่สำคัญที่สุดของปีคือ Black Friday หลังเหตุการณ์นี้ แบรนด์ที่มีมูลค่าหลายล้านดอลลาร์จึงตัดสินใจว่าปี 2017 จะไม่เสี่ยงให้เกิดปัญหาเดียวกันในช่วงเทศกาล
ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจเปลี่ยนแพลตฟอร์มเว็บไซต์เพียงหนึ่งเดือนก่อน Black Friday
ภาพของแบนเนอร์ Black Friday ของ SweetLegs บนเว็บไซต์ เขียนว่า “สุดสัปดาห์แบล็กฟรายเดย์ ลด 40 - 80%”
“เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม เราเลือกเทมเพลตมาตรฐาน จ้างบริษัทเพื่อย้ายข้อมูลทั้งหมด และพร้อมใช้งานภายในวันที่ 1 พฤศจิกายน” Chris Pafiolis ซีอีโอของ SweetLegs กล่าว
“ด้วยเดือนที่บ้าคลั่งที่สุดเท่าที่เคยมี ยอดขาย 2 ล้านดอลลาร์ เกิน 10,000 ธุรกรรม และมีปริมาณผู้เข้าชมมหาศาล เราก็ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการส่งอีเมลการตลาดเป็นชุดหรือเว็บไซต์ล่มอีกต่อไป เราสามารถมุ่งเน้นไปที่การเติบโตของธุรกิจได้อย่างแท้จริง!”
ความเรียบง่ายหมายถึงคุณมีเวลาเพิ่มขึ้นในการดูแลสิ่งที่สำคัญ ตั้งแต่นั้นมา SweetLegs ก็ยังคงเติบโตและเพลิดเพลินกับธุรกรรมที่ราบรื่น
GuardLab: ปฏิวัติการดูแลฟันในแบบดิจิทัล
คุณเคยคิดจะซื้อการ์ดป้องกันฟันออนไลน์หรือไม่? ถ้าผมบอกคุณว่านักกีฬาจากทั่วประเทศ รวมถึงทีม New England Patriots, Toronto Blue Jays และทีมบาสเกตบอล University of North Carolina กำลังทำแบบนี้ คุณจะเปลี่ยนความคิดหรือไม่?
บริษัทเทคโนโลยีด้านกีฬา GuardLab กำลังปฏิวัติวิธีการที่นักกีฬาซื้อการ์ดป้องกันฟัน พวกเขานำกลยุทธ์ออนไลน์สู่โลกออฟไลน์ (O2O) เข้ามาเพื่อลดความกังวลในกระบวนการซื้อ
เพื่อซื้อการ์ดป้องกันฟัน ลูกค้าต้องส่งสแกนฟัน ไม่ว่าจะผ่านชุดตรวจที่บ้านหรือจากทันตแพทย์ในพื้นที่ นักกีฬายังสามารถปรับแต่งการ์ดป้องกันฟันด้วยชื่อ โลโก้ทีม หรือธงชาติของตนได้อีกด้วย
ภาพหน้าจอหน้าการปรับแต่งฟันยางของ GuardLab
ยิ่งไปกว่านั้น GuardLab ยังเก็บสแกนฟันของลูกค้าแต่ละคนไว้ ทำให้นักกีฬาสามารถส่งสแกนแบบกำหนดเองได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
หากกลยุทธ์ของคุณรวม O2O การมีระบบที่รองรับเพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ราบรื่นเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากนี้ การแสดงรีวิวและคำรับรองจากลูกค้าก็ช่วยสร้างความไว้วางใจให้กับผู้ซื้อที่มีแนวโน้มสนใจ
Fabletics: ใช้ข้อมูลลูกค้าให้เกิดประโยชน์สูงสุด
Fabletics ยกระดับการแต่งกายแบบ athleisure ด้วยการเสนอสมาชิก VIP แบบสมัครรายเดือนให้ลูกค้า สมาชิกเหล่านี้จะได้รับชุดที่คัดสรรแล้วในแต่ละเดือนในราคาที่ลดลง
Dustin Netral รองประธานอาวุโสของ Fabletics กล่าวไว้ว่า “เรานำข้อมูลเหล่านี้มาประเมินสต็อกสินค้า เราสามารถดูพฤติกรรมการซื้อที่ผ่านมาและเชื่อมโยงกับธุรกรรมได้”
โดยการถามสมาชิกใหม่ถึงเจ็ดคำถามที่เจาะจงเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์และความชอบด้านสไตล์ รวมถึงการใช้ข้อมูลการซื้อที่ผ่านมาเป็นตัวคาดการณ์ Fabletics จึงสามารถปรับชุดให้เหมาะกับสมาชิกแต่ละคนได้
ภาพหน้าจอแบบสอบถามของ Fabletics
ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยการใช้ข้อมูลออนไลน์ แบรนด์สามารถยกระดับประสบการณ์ออฟไลน์ให้กับลูกค้าได้ ซึ่งเป็นผลดีต่อทั้ง Fabletics และแฟนๆ ของแบรนด์
ในโลกออนไลน์ปัจจุบัน เรามีเทคโนโลยีที่ช่วยติดตามความชอบและพฤติกรรมการซื้อของลูกค้า ด้วยการขออนุญาตอย่างเหมาะสม การใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าจะสร้างสิ่งที่เรียกว่า “ความประหลาดใจและความพึงพอใจ” ซึ่งเป็นปัจจัยที่หลายคนมองหา
Active Truth: ทำให้ระบบหลังบ้านของอีคอมเมิร์ซง่ายขึ้น
Active Truth ก่อตั้งขึ้นด้วยแนวคิดที่ว่าผู้หญิงควรได้รับสิ่งที่ดีกว่าจากตลาดชุดออกกำลังกาย ในขณะที่ทำงานเต็มเวลา ผู้ก่อตั้ง Stevie และ Nadia เปิดตัว Active Truth ด้วยกางเกงรัดรูป 100 ตัวในถังพลาสติก เว็บไซต์ทำเอง และไม่มีงบการตลาด
แล้วพวกเขามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ด้วยพนักงานเต็มเวลา 6 คน คลังสินค้าขนาดใหญ่ และสำนักงานใหญ่เฉพาะกิจ? ทั้งหมดมาจากการลงทุนในโซลูชันอีคอมเมิร์ซที่เรียบง่ายแต่แข็งแรง ทำให้บริษัทสามารถมุ่งเน้นไปที่การขยายพันธกิจและวิสัยทัศน์
ภาพหน้าจอของเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซฟิตเนสของ Active Truth แสดงผลิตภัณฑ์ 4 รายการ
ทีมงานของ Active Truth เหนื่อยกับการต้องดูแลเว็บไซต์ตลอดเวลา จึงมองหาแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซแบบ Low Code อย่าง Shopify การย้ายมาที่นี่ช่วยให้ Active Truth สามารถ “ตั้งค่าทิ้งไว้ให้ทำงานได้” โดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพ
ในความเป็นจริง หลังจากเปลี่ยนแพลตฟอร์ม อัตราการแปลงของ Active Truth เพิ่มขึ้นเกือบ 50% ไม่ว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ซของคุณจะเริ่มจากถังพลาสติกหรือคลังสินค้าขนาดใหญ่ แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่เรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพสามารถสร้างความแตกต่างอย่างมากสำหรับธุรกิจฟิตเนสของคุณ
Kayla Itsines: จับแรงบันดาลใจในการออกกำลังกาย
Kayla Itsines เป็นปรากฏการณ์ฟิตเนสระดับโลก เธอได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 30 คนที่มีอิทธิพลที่สุดบนอินเทอร์เน็ตโดย Time ในปี 2016 และติดอันดับ Young Rich Australians ของ Financial Review ในปี 2021 ด้วย
ในปี 2008 หลังจากเรียนจบ Kayla ทำงานเป็นเทรนเนอร์ฟิตเนส เธอทำงานกับผู้หญิงที่มีเป้าหมายฟิตเนสเดียวกัน นั่นก็คือต้องการผอมลง แต่ไม่อยากดูล่ำบึ้ก เมื่อคลาสที่ใช้เครื่องออกกำลังกายที่เธอสอนดูเหมือนไม่ได้ผล เธอจึงเปลี่ยนไปสอนแอโรบิก ผู้หญิงชื่นชอบคลาสนี้ และ Kayla เห็นผลลัพธ์ที่ดีกว่ามาก
ภาพของหน้าแรก Kayla Itsines บนเว็บไซต์
เพื่อนๆ เริ่มมาขอคำแนะนำจาก Kayla เรื่องโภชนาการและการออกกำลังกายเป็นประจำ ในขณะเดียวกัน Kayla ขอรูป “ก่อนและหลัง” เพื่อแชร์บน Instagram เธอเริ่มเป็นที่รู้จักจากผู้หญิงทั่วโลกที่อยากขอคำแนะนำจากเธอ จากตรงนั้นเองเธอสร้างแบรนด์ให้เติบโตกลายเป็นอาณาจักรฟิตเนสมูลค่า 160 ล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน
ผู้ติดตามบน Instagram มากกว่า 15 ล้านคน และบน Facebook เกือบ 30 ล้านคนไม่ได้เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน
เธอมุ่งเน้นไปที่ด้านแรงบันดาลใจของฟิตเนส และมันได้ผล เพราะผู้หญิงจริงๆ ในโลกจริงเริ่มเห็นผลลัพธ์ของตัวเองและช่วยเผยแพร่แนวคิดของ Kayla
ลูกค้าชอบรู้ว่าจะคาดหวังอะไรจากแบรนด์ และความสม่ำเสมอช่วยให้คุณก้าวไปข้างหน้า ข้อคิดจาก Itsines คือจงซื่อสัตย์ต่อตัวเองและแบรนด์ของคุณ
รายชื่อร้านขายอุปกรณ์ฟิตเนสออนไลน์นี้แสดงให้เห็นถึงโอกาสหลากหลายที่ธุรกิจสามารถใช้ประโยชน์จากการเติบโตของอุตสาหกรรมนี้ได้ ธุรกิจเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน ทุกแบรนด์เริ่มจากเล็กๆ แล้วค่อยๆ เติบโตจนกลายเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการฟิตเนสที่เราเห็นในวันนี้
เพื่อช่วยให้คุณไปถึงจุดนั้น เรามาดูเคล็ดลับในการสร้างร้านอุปกรณ์ฟิตเนสออนไลน์ของคุณเองกัน
วิธีสร้างร้านขายอุปกรณ์ฟิตเนสออนไลน์ของคุณเอง
การสร้างธุรกิจร้านอุปกรณ์ฟิตเนสออนไลน์ที่แข็งแรงเริ่มต้นด้วยแผนที่มั่นคง คุณต้องระบุช่องทางที่เหมาะสม ยืนยันความต้องการของตลาด และสร้างพื้นฐานที่สามารถต่อยอดธุรกิจได้ เมื่อคุณมีสิ่งเหล่านี้แล้ว คุณสามารถเริ่มสร้างระบบอีคอมเมิร์ซและการตลาดที่จำเป็นเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตแบบทวีคูณ
และนี่คือวิธีที่คุณควรลงมือทำ
กำหนดผลิตภัณฑ์ที่คุณจะขาย
อุตสาหกรรมฟิตเนสนั้นกว้างใหญ่ ซึ่งหมายความว่ามีตัวเลือกมากมายให้ผู้เริ่มต้นสร้างจุดเด่นและขายสินค้าที่ไม่เหมือนใคร
การเลือกสินค้าที่เหมาะสมอาจเป็นเรื่องท้าทาย คุณควรขายสินค้าที่จับต้องได้หรือสินค้าออนไลน์ คอร์สหรือการสมัครสมาชิก หรือรวมทั้งสามอย่างเข้าด้วยกัน
คำตอบขึ้นอยู่กับว่าใครคือลูกค้าเป้าหมายของคุณ และคุณต้องการแก้ปัญหาอะไรให้พวกเขา การรู้ว่าสินค้าอะไรที่จะขาย และขายให้ใคร ควรเป็นสิ่งแรกที่คุณพิจารณาก่อนสร้างร้านขายอุปกรณ์ฟิตเนสออนไลน์ของคุณ
นี่คือเคล็ดลับบางประการที่จะช่วยให้คุณคิดและวางแผนได้อย่างเป็นระบบ
- มองหาจุดที่เป็นปัญหาที่คุณสามารถแก้ไขได้
- หาตลาดเฉพาะกลุ่ม
- เลือกทำสิ่งที่สอดคล้องกับความสนใจและความหลงใหลส่วนตัวของคุณ
- พิจารณาว่าคุณสามารถขายประสบการณ์หรือความรู้ทางวิชาชีพของคุณได้อย่างไร
- ศึกษาเทรนด์ในอุตสาหกรรมฟิตเนสเพื่อระบุความต้องการและศักยภาพการเติบโต
- อ่านรีวิวลูกค้า ฟอรัม และความคิดเห็นบนโซเชียลมีเดียเพื่อระบุความต้องการ
- ค้นหาสินค้าที่เกี่ยวข้องและหาจุดอ่อนหรือจุดที่สามารถขยายได้
- ติดตามข่าวสารและพร้อมรับไอเดียหรือโอกาสใหม่ๆ
คุณเข้าสู่วงการฟิตเนสได้หลายวิธีเลย และสำหรับผู้ที่ต้องการขายสินค้าจริง คุณสามารถขยายไปยังอุปกรณ์ออกกำลังกาย อาหารเสริม เสื้อผ้า หรืออุปกรณ์ต่างๆ สำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านบริการ คุณสามารถขายโปรแกรมการออกกำลังกาย คลาสออนไลน์ หรือบริการสมัครสมาชิก
ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จที่สุดคือธุรกิจที่สามารถระบุความต้องการที่ชัดเจนในชุมชนเป้าหมายของตน และหาวิธีเสนอทางออกเพื่อตอบสนองความต้องการนั้น
เลือกโมเดลธุรกิจของคุณ
เมื่อคุณตัดสินใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์แล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการเลือกโมเดลธุรกิจอีคอมเมิร์ซ
โมเดลที่คุณเลือกจะขึ้นอยู่กับลูกค้าเป้าหมาย ผลิตภัณฑ์ และเป้าหมายทางธุรกิจของคุณ
โมเดลธุรกิจทั่วไปสำหรับแบรนด์อีคอมเมิร์ซ ได้แก่
- ธุรกิจสู่ผู้บริโภค (B2C): ธุรกิจที่ขายสินค้าหรือบริการให้กับผู้บริโภค (ไม่ว่าจะเป็นสินค้าของตนเองหรือสินค้าที่จัดหาอื่น)
- ธุรกิจสู่ธุรกิจ (B2B): ธุรกิจที่ขายสินค้าหรือบริการให้กับธุรกิจอื่น
- ตรงสู่ผู้บริโภค (DTC): ผู้ผลิตหรือผู้ผลิตขายผลิตภัณฑ์โดยตรงให้กับผู้บริโภคผ่านร้านค้าออนไลน์ของตน
- แบรนด์ส่วนตัว: สินค้าที่ผลิตโดยบุคคลที่สาม แต่ขายภายใต้ชื่อแบรนด์ของคุณเอง
- ขายส่ง: โมเดล B2B ที่ขายสินค้าทีละจำนวนมากในราคาลดให้กับธุรกิจอื่น
- การสมัครสมาชิก: โมเดลการเรียกเก็บเงินรายเดือนที่ให้ลูกค้าเข้าถึงผลิตภัณฑ์ บริการ หรือข้อมูลอย่างต่อเนื่อง
รูปแบบธุรกิจที่เหมาะสมกับคุณจะขึ้นอยู่กับ
- สิ่งที่คุณกำลังขาย
- ใครคือลูกค้าของคุณ
- สิ่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสินค้าของคุณ
- วิธีการตลาดและการขายสินค้าของคุณ
บางธุรกิจอาจใช้รูปแบบธุรกิจหลายแบบพร้อมกัน ตัวอย่างเช่น แบรนด์ B2C หรือ DTC อาจรวมบริการสมัครสมาชิกคลาสฟิตเนสออนไลน์ไว้บนเว็บไซต์ของพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมสร้างชุมชน
ในส่วนนี้ คุณอาจพิจารณากลยุทธ์การขายและการตลาดเพื่อสร้างความสนใจและความต้องการ ซึ่งอาจรวมถึงการมุ่งเน้นไปที่การสร้างชุมชน การใช้โมเดลแฟลชเซล การใช้โครงสร้างอีคอมเมิร์ซแบบหลายช่องทาง หรือ Headless Ecommerce หรือการเข้าสู่โลกของโซเชียลคอมเมิร์ซ
เลือกแพลตฟอร์มสำหรับร้านขายอุปกรณ์ฟิตเนสออนไลน์ของคุณ
เมื่อคุณมีสินค้า หรือบริการ และเลือกแบบธุรกิจเรียบร้อย ขั้นตอนถัดไปคือการเลือกแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ
มีหลายสิ่งที่ต้องพิจารณา เริ่มจากประเภทของแพลตฟอร์มที่คุณควรใช้ ซึ่งนี่คือสามประเภทที่พบบ่อยที่สุด
- ซอฟต์แวร์แบบบริการ (SaaS): โซลูชันแบบสมัครสมาชิกที่สร้างและดูแลโดยผู้ให้บริการภายนอก ธุรกิจจะเช่าซอฟต์แวร์จากผู้ให้บริการ ซึ่งจะรับผิดชอบการพัฒนา ความปลอดภัย ความพร้อมใช้งาน และการบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง
- On-premise: สร้างขึ้นด้วยทรัพยากรของบริษัทเองและโฮสต์ในศูนย์ข้อมูลภายใน แพลตฟอร์มแบบ On-premise ต้องใช้ทีมพัฒนาและวิศวกรรมภายในและภายนอก ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายสูงและใช้เวลานาน
- Cloud: เป็นแบบผสมระหว่าง SaaS และ On-premise สร้างขึ้นด้วยทรัพยากรของบริษัทเอง แต่โฮสต์บนคลาวด์ผ่านผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน (IaaS) เช่น Amazon Web Services หรือ Microsoft Azure
เพื่อให้ธุรกิจร้านขายอุปกรณ์ฟิตเนสออนไลน์ของคุณสามารถปรับขนาดได้ง่าย เชื่อถือได้ และใช้งานสะดวก เราแนะนำให้ใช้แพลตฟอร์ม SaaS อย่าง Shopify
เมื่อพิจารณาแพลตฟอร์มที่เหมาะสมสำหรับคุณ ให้มองหาแพลตฟอร์มที่สามารถเติบโตไปพร้อมกับคุณและช่วยให้จัดการธุรกิจประจำวันได้ง่าย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณควรมองหาแพลตฟอร์มที่มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
- ระบบออนไลน์เสถียร ไม่ล่มง่าย
- มีมาตรฐานความปลอดภัยของข้อมูลบัตรเครดิต (PCI compliance)
- รองรับการเชื่อมต่อกับหลายช่องทางการขาย
- มีระบบจัดการสต็อกสินค้าในตัว
- สามารถขยายการใช้งานได้ตามการเติบโตของธุรกิจ
- ระบบชำระเงินและเช็กเอาต์ที่รวดเร็ว
- มีบริการช่วยเหลือและซัพพอร์ตอย่างต่อเนื่อง
- รองรับการตั้งค่าภาษาท้องถิ่นและสกุลเงินสำหรับตลาดต่างประเทศ
- รองรับการเชื่อมต่อกับแอปและการปรับแต่งที่หลากหลาย
- รองรับระบบอัตโนมัติ
- รองรับการขายแบบ Headless และแบบหลายช่องทาง
- รองรับการขายหน้าร้านและจุดขาย (POS)
Shopify เป็นโซลูชันแบบ SaaS ที่คุ้มค่า ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อช่วยให้ธุรกิจร้านอุปกรณ์ฟิตเนสออนไลน์เติบโตและขยายได้อย่างยั่งยืน แพลตฟอร์มนี้สามารถรองรับปริมาณการเข้าชมและยอดขายที่พุ่งสูงในช่วงแคมเปญใหญ่ๆ อย่าง Black Friday หรือการจัดโปรแบบ flash sale ได้อย่างไม่มีสะดุด และยังมอบประสบการณ์เช็กเอาต์ที่มีอัตราการแปลงยอดขายสูงที่สุดบนโลกออนไลน์
แบรนด์ที่ต้องการขยายตลาดไปทั่วโลก เปิดประสบการณ์แบบ omnichannel ใช้ระบบ headless ecommerce หรือทำธุรกิจแบบออนไลน์สู่หน้าร้าน (O2O) ก็สามารถทำได้ง่ายด้วย Shopify
สร้างเว็บไซต์ของคุณ หรือย้ายเว็บไซต์เดิมมาอยู่บนแพลตฟอร์มใหม่
เมื่อคุณเลือกแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซสำหรับร้านขายอุปกรณ์ฟิตเนสออนไลน์ของคุณได้แล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการสร้างร้านค้าของคุณขึ้นใหม่ หรือย้ายร้านค้าเดิมมาอยู่บนแพลตฟอร์มนั้น
สำหรับการเริ่มต้นใช้งาน Shopify ขั้นตอนจะมีลักษณะดังนี้
- สร้างบัญชี Shopify อัปเกรดบัญชีเดิม หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจาก Shopify เพื่อเริ่มต้นใช้งาน
- เริ่มสร้างเว็บไซต์ของคุณผ่านระบบหลังบ้านของ Shopify
- เพิ่มสินค้าลงในแคตตาล็อก
- ตั้งค่าโดเมนของคุณ
- ตั้งค่าระบบรับชำระเงิน
- เชื่อมต่อกับเทคโนโลยีหรือระบบที่คุณใช้อยู่เดิม
หากคุณเป็นผู้ใช้ใหม่ของแพลตฟอร์มนี้ ผู้จัดการฝ่ายความสำเร็จของผู้ค้าบน Shopify พร้อมให้คำแนะนำเพื่อช่วยคุณเริ่มต้น หรือหากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม คุณสามารถร่วมงานกับพาร์ทเนอร์ของ Shopify เพื่อให้ร้านค้าของคุณพร้อมเปิดขายได้อย่างราบรื่น
สำหรับธุรกิจที่ต้องการย้ายร้านอุปกรณ์ฟิตเนสออนไลน์เดิมมาบน Shopify ขั้นตอนจะมีลักษณะดังนี้
- รวบรวมผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด
- กำหนดความต้องการและเป้าหมายของการย้ายระบบ
- วางแผนกระบวนการและกำหนดระยะเวลาการย้าย
- ออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ร้านขายอุปกรณ์ฟิตเนสออนไลน์ใหม่
- ปรับแต่งประสบการณ์การชำระเงินให้ราบรื่นที่สุด
- ตรวจสอบ SEO เพื่อให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ใหม่จะยังคงรักษาอันดับการค้นหาไว้ได้
- ทดสอบเว็บไซต์อย่างละเอียดก่อนเปิดใช้งานจริง
- เปิดตัวเว็บไซต์ใหม่อย่างเป็นทางการ
กระบวนการย้ายแต่ละครั้งอาจแตกต่างกันไปตามขนาดและความซับซ้อนของธุรกิจ คุณสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากคู่มือย้ายแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เพื่อทำความเข้าใจขั้นตอนต่างๆ
เปิดร้านขายอุปกรณ์ฟิตเนสออนไลน์ของคุณ
เมื่อเว็บไซต์ของคุณสร้างและผ่านการทดสอบเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาพร้อมเปิดขายจริง แต่ต้องจำไว้ว่า งานยังไม่จบเพียงเท่านี้
ในวันเปิดตัวร้านขายอุปกรณ์ฟิตเนสออนไลน์ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้เตรียมสิ่งต่อไปนี้ไว้ครบถ้วน
- ทดสอบการทำงานของเว็บไซต์ทั้งหมด ลิงก์ และขั้นตอนการชำระเงินอย่างละเอียดก่อนเปิดจริง
- กำหนดเวลาที่เว็บไซต์ใหม่จะออนไลน์อย่างชัดเจน
- ระบุทีมงานที่จะรับผิดชอบเปิดเว็บไซต์และแก้ไขปัญหาหากเกิดขึ้น
- เปิดเว็บไซต์ผ่านระบบ Domain Name System (DNS)
- ปิดการเข้าถึงเว็บไซต์เดิมในช่วงที่มีการเปลี่ยน DNS
- เตรียมแผนสำรองไว้ หากเกิดข้อผิดพลาดในระหว่างกระบวนการเปิดตัว
หลังจากเปิดเว็บไซต์แล้ว คุณควรดำเนินการต่อด้วยขั้นตอนสำคัญดังนี้
- ตรวจสอบและทดสอบการทำงานของระบบชำระเงิน อีเมลยืนยันและการแจ้งเตือน รวมถึงระบบวิเคราะห์ข้อมูลและรายงานผล
- ทำการตรวจสอบ SEO ทางเทคนิค เพื่อให้แน่ใจว่าได้โอน XML sitemap มาเรียบร้อยแล้ว และโค้ดติดตามต่างๆ เช่น Analytics และ Tracking ยังทำงานถูกต้อง
- เฝ้าดูปริมาณทราฟฟิกและอันดับการค้นหาอย่างใกล้ชิด
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าลิงก์ในอีเมลและไฟล์ดาวน์โหลดต่างๆ ยังคงใช้งานได้
- ทดสอบเส้นทางของผู้ใช้ สำหรับการดาวน์โหลดและการสมัครรับจดหมายข่าวว่ายังทำงานได้ตามปกติ
หากขั้นตอนทั้งหมดนี้ดูซับซ้อนเกินไป แนะนำให้ติดต่อทีมงาน Shopify หรือพาร์ทเนอร์ของเราเพื่อรับความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ
ขยายร้านขายอุปกรณ์ฟิตเนสออนไลน์ของคุณวันนี้
ตลาดร้านอุปกรณ์ฟิตเนสออนไลน์กำลังเต็มไปด้วยโอกาสสำหรับผู้ประกอบการและเจ้าของธุรกิจที่มีความมุ่งมั่นและพร้อมจะขยายธุรกิจให้เติบโต
เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซที่กล่าวถึงในบทความนี้ได้สอนเราถึงบทเรียนสำคัญหลายอย่าง เช่น
- การใช้ข้อมูลลูกค้าเพื่อช่วยในการตัดสินใจอย่างมีประสิทธิภาพ
- การมอบแรงจูงใจให้ลูกค้ารู้สึกอยากกลับมาและสร้างความภักดีในระยะยาว
- การผสานกลยุทธ์ออนไลน์สู่ออฟไลน์ (O2O) เพื่อสร้างความเชื่อมโยงที่แข็งแรงยิ่งขึ้น
- การใช้โซเชียลมีเดียเพื่อขยายตลาดสู่ระดับโลกและเข้าถึงลูกค้าทั่วทุกมุมโลก
คำกล่าวที่ว่า “ต้องคิดนอกกรอบ” หรือในกรณีนี้คือ “คิดให้ไกลกว่าภายในฟิตเนส” ยังคงใช้ได้เสมอ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับร้านขายอุปกรณ์ฟิตเนสออนไลน์
ขั้นตอนในการสร้างร้านอุปกรณ์ฟิตเนสออนไลน์มีอะไรบ้าง
การสร้างร้านอุปกรณ์ฟิตเนสออนไลน์มีขั้นตอนดังนี้
- กำหนดสินค้าที่คุณจะขาย
- เลือกรูปแบบธุรกิจ
- เลือกแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ
- สร้างเว็บไซต์ร้านฟิตเนสของคุณ หรือย้ายจากเว็บไซต์เดิม
- เปิดตัวร้านค้าออนไลน์ของคุณ
ตัวอย่างร้านอุปกรณ์ฟิตเนสออนไลน์มีอะไรบ้าง
ตัวอย่างร้านอุปกรณ์ฟิตเนสออนไลน์ ได้แก่ Gymshark, Crossrope, BPI Sports, Altitude Sports, 310 Nutrition, NOBULL และ Boxraw ร้านเหล่านี้จำหน่ายสินค้าหลากหลาย ตั้งแต่อุปกรณ์ออกกำลังกาย เสื้อผ้า ไปจนถึงอาหารเสริม
ตลาดร้านอุปกรณ์ฟิตเนสออนไลน์กำลังเติบโตหรือไม่
ตลาดร้านอุปกรณ์ฟิตเนสออนไลน์กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ 38.2% และคาดว่าจะมีมูลค่ารวมถึง 64.57 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2028 โดยอเมริกาเหนือเป็นภูมิภาคที่มีการเติบโตสูงสุดและครองส่วนแบ่งตลาดออนไลน์มากที่สุดในปัจจุบัน
เลือกแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่พร้อมสำหรับอนาคต เพื่อสร้างอาณาจักรฟิตเนสของคุณด้วยคู่มือฉบับผู้ซื้อของเรา


