เว็บโฮสติ้งคือสิ่งที่ทุกเว็บไซต์ต้องมี แต่เว็บโฮสติ้งที่ดีที่สุดนั้นย่อมมีค่าใช้จ่าย ตั้งแต่เว็บไซต์ส่วนตัวไปจนถึงร้านค้าออนไลน์ขนาดใหญ่มูลค่าหลายล้านดอลลาร์ ความต้องการเว็บโฮสติ้งนั้นแตกต่างกันไปตามเป้าหมายของเว็บไซต์ที่คุณต้องการ
แพ็กเกจค่าเว็บโฮสติ้งแต่ละแบบมีคุณสมบัติและราคาแตกต่างกัน บางแพ็กเกจเสนอการโฮสติ้งแบบพร้อมใช้งานและการออกแบบเว็บไซต์ ในขณะที่บางแพ็กเกจนำเสนอนวัตกรรมทางเทคนิคเพื่อรับมือกับปริมาณการเข้าชมที่สูงขึ้น การรู้ว่าแพ็กเกจใดเหมาะสมที่สุดสำหรับคุณและธุรกิจของคุณจะช่วยประหยัดเงินและลดปัญหาทางเทคนิคได้
อ่านต่อเพื่อดูข้อมูลที่จะช่วยคุณในการเลือกค่าเว็บโฮสติ้งและผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งที่ดีที่สุดสำหรับความต้องการของคุณ
ค่าเว็บโฮสติ้งอยู่ที่เท่าไหร่?
ค่าเว็บโฮสติ้งจะคำนวณจากปริมาณทรัพยากรที่คุณต้องการเพื่อจัดการกับการเข้าชมเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น แพ็กเกจการโฮสต์เว็บไซต์สำหรับองค์กรมักจะมีราคาสูงกว่าเพราะต้องการ RAM และประสิทธิภาพการประมวลผลมากกว่าร้านค้าที่มีขนาดเล็กและมีการเข้าชมน้อย
ราคาอาจเริ่มต้นที่ประมาณเดือนละ 70 ถึง 150 บาท แต่ค่าเว็บโฮสติ้งทั่วไปสำหรับเจ้าของร้านค้าออนไลน์อยู่ระหว่างเดือนละ 150 ถึง 1,500 บาท
นี่คือการแบ่งประเภทค่าเว็บโฮสติ้งสำหรับแพ็กเกจการโฮสต์ที่พบบ่อยที่สุด
|
แพ็กเกจการโฮสต์ |
ช่วงของค่าเว็บโฮสติ้งต่อเดือน |
|---|---|
|
โฮสต์ WordPress |
ประมาณ 100 ถึง 300 บาท |
|
โฮสต์แบบแชร์ |
ประมาณ 150 ถึง 600 บาท |
|
โฮสต์เฉพาะ |
ประมาณ 2,500 ถึง 35,000 บาท |
|
โฮสต์ VPS |
ประมาณ 600 ถึง 2,700 บาท |
|
โฮสต์คลาวด์ |
ประมาณ 1,500 ถึง 60,000 บาท+ |
4 ปัจจัยที่มีผลต่อค่าเว็บโฮสติ้ง
ค่าเว็บโฮสติ้งของคุณจะขึ้นอยู่กับฟีเจอร์ที่คุณต้องการและฟังก์ชันการทำงานของแพ็คเกจโฮสติ้งเป็นหลัก ตัวอย่างเช่น ผู้ให้บริการโฮสติ้งบนคลาวด์ที่มี RAM และ CPU เฉพาะสำหรับเว็บไซต์ของคุณจะมีค่าเว็บโฮสติ้งแพงกว่าโฮสติ้งแบบแชร์ ซึ่งคุณต้องใช้ทรัพยากรการประมวลผลร่วมกับเว็บไซต์อื่นๆ
ปัจจัยที่ใช้ในการคำนวณค่าเว็บโฮสติ้งมีดังต่อไปนี้
ฟีเจอร์ของแพ็กเกจการโฮสต์
การเข้าถึงเครื่องมือช่วยสร้างเว็บไซต์และการสนับสนุนตลอด 24 ชั่วโมงจะมีค่าเว็บโฮสติ้งสูงขึ้น โดยคุณจะต้องจ่ายมากขึ้นสำหรับฟีเจอร์อย่างแบนด์วิธและพื้นที่เก็บข้อมูลที่มากกว่า เนื่องจากผู้ให้บริการจะต้องใช้ทรัพยากรเพิ่มเติมในการโฮสต์เว็บไซต์ของคุณ
ระยะเวลาสัญญา
ระยะเวลาของข้อตกลงการโฮสต์เว็บไซต์มีผลต่อค่าเว็บโฮสติ้ง ตัวอย่างเช่น แพ็กเกจรายเดือนโดยทั่วไปจะมีราคาแพงกว่าแพ็กเกจรายปี เนื่องจากผู้ให้บริการโฮสต์จะให้ส่วนลดเล็กน้อยสำหรับการชำระเงินเต็มจำนวน เช่นเดียวกัน แพ็กเกจแบบหลายปีมักจะคุ้มค่าที่สุดในแง่ของอัตราค่าบริการรายเดือน แต่ก็ต้องมีการผูกมัดในระยะยาว
ลองพิจารณาค่าใช้จ่ายทั้งหมดของการโฮสต์หลังจากส่วนลดช่วงเริ่มต้นหมดลง เพื่อตัดสินใจว่าคุ้มค่าหรือไม่ บางครั้งแพ็กเกจที่มีค่าเว็บโฮสติ้งเริ่มต้นสูงกว่าอาจคุ้มค่ากว่าในระยะยาว
ประเภทของบริการโฮสต์
บริการโฮสต์ที่แตกต่างกันจะเหมาะกับประเภทของเว็บไซต์ที่แตกต่างกัน ตั้งแต่เว็บไซต์ธุรกิจพื้นฐานไปจนถึงร้านค้าอีคอมเมิร์ซที่ซับซ้อน
เราสามารถแบ่งประเภทการโฮสต์เว็บไซต์ออกเป็นสองประเภทดังนี้
- การโฮสต์ที่มีการจัดการ: การโฮสต์ที่จัดการทั้งการตั้งค่า การกำหนดค่า และการดูแลเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งมักจะเป็นตัวเลือกการสมัครสมาชิกที่มีราคาแพงที่สุด เนื่องจากผู้ให้บริการจะทำงานทั้งหมดนี้ให้คุณ
- การโฮสต์ที่จัดการด้วยตนเอง: สำหรับบริการโฮสต์ที่จัดการด้วยตนเอง คุณจะต้องรับผิดชอบงานด้านการจัดการเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด ซึ่งมักจะเป็นตัวเลือกที่มีราคาถูกกว่าในตอนแรก แต่ในระยะยาวอาจมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าเมื่อพิจารณาถึงค่าใช้จ่ายระยะยาว เช่น การสนับสนุนด้าน IT (ทั้งจ้างพนักงานของตัวเองหรือจ้างภายนอก)
ตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์
ตำแหน่งที่ตั้งของเซิร์ฟเวอร์ที่โฮสต์เว็บไซต์ของคุณก็มีผลต่อค่าเว็บโฮสติ้ง เซิร์ฟเวอร์ในพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่น เช่น โตเกียว หรือนิวยอร์ก อาจมีราคาแพงกว่าเนื่องจากต้นทุนการดำเนินงานและความต้องการใช้งาน
ลองเลือกผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งที่มีเซิร์ฟเวอร์ใกล้กับกลุ่มเป้าหมายของคุณเพื่อลดความหน่วงของเครือข่ายและปรับปรุงความเร็วในการโหลด ซึ่งจะทำให้ค่าเว็บโฮสติ้งของคุณถูกลง
ประเภทของเว็บโฮสติ้งและค่าเว็บโฮสติ้ง
ตัวเลือกเว็บโฮสติ้งส่วนใหญ่นั้นจัดอยู่ใน 4 ประเภทหลักๆ หากคุณสามารถระบุได้ว่าประเภทใดเหมาะสมกับความต้องการของคุณมากที่สุด คุณก็ใกล้เจอบริษัทเว็บโฮสติ้งที่เหมาะสมมากขึ้น
แพ็กเกจการโฮสต์แบบแชร์
การโฮสต์แบบแชร์ เป็นรูปแบบการโฮสต์ที่ได้รับความนิยมเพราะมีราคาคงที่และใช้งานง่าย แพ็กเกจการโฮสต์แบบแชร์เริ่มต้นที่ประมาณเดือนละ 150 บาท และอาจสูงถึงเดือนละ 600 บาท ตามระดับบริการที่คุณต้องการ
แพ็กเกจการโฮสต์แบบแชร์อนุญาตให้เว็บไซต์หลายแห่งใช้เซิร์ฟเวอร์เดียวกัน คุณอาจไม่เคยรู้ว่าเว็บไซต์ไหนบ้างที่คุณแชร์ทรัพยากรด้วย แต่ลักษณะของข้อตกลงนี้คือเว็บไซต์หลายแห่งแชร์โครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้สามารถเข้าถึงได้สำหรับผู้ใช้อินเทอร์เน็ต บริษัทที่ให้บริการโฮสต์แบบแชร์มักจะลงทุนในฟาร์มเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ที่เก็บและส่งข้อมูลเว็บไซต์ของลูกค้า
แพ็กเกจการโฮสต์แบบแชร์มักมีเครื่องมือสร้างเว็บไซต์พื้นฐานและเครื่องมือที่กำหนดเองได้ เพื่อให้คุณสามารถทำสิ่งที่คุณต้องการได้ ผู้ให้บริการที่ดีที่สุดจะมีทีมสนับสนุนที่ใส่ใจเพื่อช่วยเหลือเมื่อเว็บไซต์ของคุณประสบปัญหา
แต่การโฮสต์แบบแชร์ก็มีข้อเสียคือ เมื่อเว็บไซต์มีการเข้าชมหรือโหลดเซิร์ฟเวอร์ถึงระดับหนึ่ง ก็จะเกิดปัญหาในเรื่องประสิทธิภาพและเวลาในการโหลด เนื่องจากทรัพยากรการโฮสต์จะถูกแชร์ระหว่างเว็บไซต์ทุกแห่งที่ใช้ผู้ให้บริการโฮสต์นั้น เมื่อเว็บไซต์ประสบความสำเร็จและขยายการดำเนินงานบนผู้ให้บริการโฮสต์แบบแชร์ คุณอาจต้องมองหาทางเลือกอื่นเพื่อหาวิธีที่ดีกว่าโดยไม่ทำให้ประสิทธิภาพลดลง
เหมาะสำหรับ: บล็อกส่วนตัวหรือเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซขนาดเล็ก
ข้อดีของแพ็กเกจการโฮสต์แบบแชร์
- ค่าเว็บโฮสติ้งต่ำ (เริ่มต้นที่เดือนละ 150 บาท)
- ใช้งานง่ายสำหรับผู้เริ่มต้น
- ไม่ต้องมีความรู้ทางเทคนิค
ข้อเสียของแพ็กเกจการโฮสต์แบบแชร์
- ทรัพยากรจำกัด
- เวลาในการโหลดจะช้าลงในช่วงที่มีการเข้าชมสูง
แพ็กเกจการโฮสต์ WordPress
แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส WordPress ครองส่วนแบ่งตลาดบนอินเทอร์เน็ตอย่างมาก ประมาณ 43% ของเว็บไซต์ทั้งหมดใช้เทคโนโลยีนี้ คุณอาจต้องจ่ายประมาณเดือนละ 318 บาท สำหรับแพ็คเกจโฮสติ้ง WordPress แบบจัดการ
WordPress เป็นระบบจัดการเนื้อหาชั้นนำมานานกว่า 10 ปี เป็นแกนหลักของเว็บไซต์ทุกประเภท ตั้งแต่บล็อกส่วนตัวทั่วไปไปจนถึงธุรกิจสื่อเพื่อผลกำไร และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ อย่างไรก็ตาม WordPress ไม่ใช่โซลูชันที่เหมาะกับทุกอย่าง แม้จะมีความยืดหยุ่น แต่ WordPress ก็ไม่เหมาะสำหรับอีคอมเมิร์ซเนื่องจากความซับซ้อนในการจัดการตะกร้าสินค้าและการชำระเงิน หากคุณต้องการขายออนไลน์ แพลตฟอร์มสำเร็จรูปอย่าง Shopify จะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
แพ็คเกจโฮสติ้งแบบแชร์หลายแพ็คเกจมีปลั๊กอินสำหรับติดตั้ง WordPress ทำให้ใช้งานซอฟต์แวร์ WordPress ฟรีร่วมกับเว็บโฮสต์ใดก็ได้ง่าย หากคุณเลือกใช้วิธีนี้ คุณจะต้องเสียค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับโฮสติ้งแบบแชร์ นอกจากนี้ ผู้ให้บริการบางรายอาจเรียกเก็บค่าเว็บโฮสติ้งครั้งเดียวหรือค่าเว็บโฮสติ้งรายเดือนสำหรับการใช้ระบบของพวกเขาเพื่อติดตั้ง WordPress อย่างรวดเร็ว คุณควรศึกษารายละเอียดค่าเว็บโฮสติ้งของผู้ให้บริการให้ดีเสมอ
Dave Smyth นักออกแบบ UX/UI อิสระได้กล่าวไว้ว่า “หากเว็บไซต์ใช้ระบบจัดการเนื้อหา (CMS) การมองหาผู้ให้บริการโฮสติ้งที่เชี่ยวชาญด้านนั้นก็อาจคุ้มค่า โดยแพ็กเกจพวกนี้บางครั้งมีราคาแพงกว่าโฮสติ้งทั่วไป แต่ก็อาจมีข้อดีด้านประสิทธิภาพ การสนับสนุน และความปลอดภัยที่มากกว่า”
เหมาะสำหรับ: เว็บไซต์ WordPress
ข้อดีของการโฮสต์ WordPress
- ราคาไม่แพง (ประมาณเดือนละ 300 บาท)
- มีการกำหนดค่าไว้ล่วงหน้าสำหรับเว็บไซต์ WordPress
- ใช้งานง่ายพร้อมการอัปเดตอัตโนมัติ
ข้อเสียของการโฮสต์ WordPress
- การปรับแต่งที่จำกัด
- ข้อจำกัดด้านการเข้าชม
การโฮสต์เฉพาะ
สำหรับการโฮสต์เฉพาะ ผู้ให้บริการโฮสต์จะให้เซิร์ฟเวอร์จริงทั้งหมดแก่คุณโดยที่คุณไม่ต้องแชร์กับใคร ดังนั้นคุณจึงสามารถใช้ทรัพยากรทั้งหมดของเซิร์ฟเวอร์นั้นได้อย่างเต็มที่สำหรับเว็บไซต์ของคุณ
เซิร์ฟเวอร์เฉพาะระดับเริ่มต้นอาจมีราคาเริ่มต้นที่ประมาณเดือนละ 2,500 บาท เซิร์ฟเวอร์ระดับองค์กรอาจมีราคาสูงกว่าเดือนละ 35,000 บาท ตรงนี้จะขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการและความต้องการของคุณ
เมื่อเปรียบเทียบกับตัวเลือกการโฮสต์อื่น ๆ โซลูชันนี้เสนอประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความเสถียรที่ดีที่สุดสำหรับเว็บไซต์ที่ต้องการการกำหนดค่าเซิร์ฟเวอร์เฉพาะและมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูง ด้วยแพ็กเกจการโฮสต์เว็บไซต์เฉพาะ คุณจะได้รับการควบคุมในระดับที่ไม่มีใครเทียบได้ ดังนั้นคุณจึงสามารถสร้างซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชันของคุณเองได้
การโฮสต์บนเซิร์ฟเวอร์เฉพาะมีความเร็วสูงและจัดการกับปริมาณการเข้าชมสูงโดยไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพ แต่อย่าลืมว่านี่เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่มีราคาแพงกว่าและต้องอาศัยความรู้ทางเทคนิคมากขึ้น ดังนั้นอาจเหมาะสำหรับผู้ใช้ที่มีความเชี่ยวชาญทางเทคนิคมากกว่า
เหมาะสำหรับ: เว็บไซต์ที่มีการเข้าชมสูงหรือเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่
ข้อดีของการโฮสต์เฉพาะ
- ควบคุมทรัพยากรของเซิร์ฟเวอร์ได้เต็มที่
- ประสิทธิภาพสูงสุด
- ความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น
ข้อเสียของการโฮสต์เฉพาะ
- ค่าเว็บโฮสติ้งสูง โดยแพ็กเกจอาจสูงถึงเดือนละ 35,000 บาท
- ต้องมีทักษะทางเทคนิคขั้นสูงหรือจ้างมืออาชีพ
การโฮสต์เซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวเสมือน (VPS)
การโฮสต์ VPS จะเป็นการใช้เทคโนโลยีเสมือนเพื่อให้คุณมีชุดทรัพยากรส่วนตัวบนเซิร์ฟเวอร์ที่มีผู้ใช้หลายคน แพ็กเกจในกลุ่มนี้จะมีค่าเว็บโฮสติ้งประมาณเดือนละ 600 ถึง 2,700 บาท
ในทางเทคนิคแล้ว การให้บริการโฮสติ้งแบบ VPS นั้นเป็นการที่ผู้ให้บริการโฮสติ้งของคุณจะติดตั้งเลเยอร์เสมือนไว้บนระบบปฏิบัติการของเซิร์ฟเวอร์ โดยแบ่งพาร์ติชันเซิร์ฟเวอร์ในลักษณะที่ผู้ใช้แต่ละคนสามารถติดตั้งระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์ของตนเองได้
โซลูชันนี้มีความปลอดภัยและเสถียรมากกว่าโฮสติ้งแบบแชร์อย่างเห็นได้ชัด เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเว็บไซต์ที่เริ่มมีขนาดใหญ่เกินกว่าทรัพยากรของโฮสติ้งแบบแชร์ แต่ไม่ต้องการทรัพยากรของเซิร์ฟเวอร์เฉพาะ
ผู้ให้บริการโฮสติ้ง VPS ให้การเข้าถึงที่คล้ายกับเซิร์ฟเวอร์เฉพาะ แต่มีค่าเว็บโฮสติ้งที่ต่ำกว่ามาก เว็บไซต์ที่โฮสต์บนเซิร์ฟเวอร์แบบแชร์ประเภทนี้จะไม่สามารถรบกวนเว็บไซต์อื่นได้ และสามารถปรับขนาดเพื่อรองรับเว็บไซต์ที่มีปริมาณการเข้าชมสูงได้อย่างง่ายดาย ในขณะเดียวกัน โฮสติ้ง VPS ก็มีราคาแพงกว่าและต้องใช้ความรู้ทางเทคนิคมากกว่าตัวเลือกอื่นๆ เช่นเดียวกับโฮสติ้งเฉพาะ
ข้อดีของการโฮสต์ VPS
- ประสิทธิภาพดีกว่าการโฮสต์แบบแชร์
- ปรับขนาดได้ง่ายตามการเติบโตของเว็บไซต์
ข้อเสียของการโฮสต์ VPS
- ต้องมีความรู้ทางเทคนิค
- ประสิทธิภาพจำกัดเมื่อเปรียบเทียบกับเซิร์ฟเวอร์เฉพาะ
การโฮสต์คลาวด์
การโฮสต์เว็บไซต์บนคลาวด์เป็นการกระจายศูนย์โซลูชันการโฮสติ้งของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้กลุ่มเซิร์ฟเวอร์เสมือนและเซิร์ฟเวอร์จริงที่ทำหน้าที่เป็นโฮสต์ ซึ่งจะช่วยปกป้องเว็บไซต์ของคุณจากปริมาณการเข้าชมที่เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและความต้องการข้อมูลที่สูงขึ้น นี่เป็นตัวเลือกที่แพงที่สุด โดยมีแพ็กเกจราคาแบบขั้นบันไดเริ่มต้นที่เดือนละประมาณ 1,500 บาท และสูงขึ้นไปเรื่อยๆ
การโฮสติ้งบนคลาวด์ได้ชื่อมาจากการใช้ทรัพยากรคลาวด์ระยะไกล เช่น เครือข่ายคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงที่เป็นส่วนตัว เพื่อส่งมอบเว็บไซต์และแอปพลิเคชันอินเทอร์เน็ตให้กับผู้ที่ต้องการใช้งาน
ในขณะที่โซลูชันการโฮสติ้งอื่นๆ ส่วนใหญ่จัดเก็บข้อมูลไว้ที่ส่วนกลางบนเซิร์ฟเวอร์เดียว การโฮสติ้งบนคลาวด์จะจัดเก็บข้อมูลหลายอินสแตนซ์กระจายอยู่บนเซิร์ฟเวอร์หลายเครื่อง ด้วยโครงสร้างนี้ การโฮสติ้งบนคลาวด์จึงอาจถูกเรียกว่า "การโฮสติ้งเซิร์ฟเวอร์แบบคลัสเตอร์" ได้เช่นกัน
เหมาะสำหรับ: เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซระดับองค์กร
ข้อดีของแพ็กเกจการโฮสต์บนคลาวด์
- ความพร้อมใช้งานสูง หมายถึงความง่ายที่ผู้ให้บริการสามารถกู้คืนจากความล้มเหลวของเซิร์ฟเวอร์ได้ ด้วยการโฮสติ้งบนคลาวด์ เว็บไซต์ของคุณมีแนวโน้มที่จะยังคงใช้งานได้แม้ว่าเซิร์ฟเวอร์หนึ่งตัวหรือมากกว่านั้นจะล้มเหลวก็ตาม
- การกระจายโหลดการเข้าชม หมายถึงการรักษาสมดุลระหว่างปริมาณการเข้าชมที่มุ่งไปยังเว็บไซต์และปริมาณโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับ คุณอาจนึกภาพทางหลวงที่เพิ่มเลนอย่างน่าอัศจรรย์ในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนและหดลงในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยมีรถวิ่ง นั่นคือการกระจายโหลดการเข้าชมในรูปแบบการโฮสติ้งบนคลาวด์ เนื่องจากทรัพยากรคลาวด์สามารถจัดสรรได้แบบไดนามิก การโฮสติ้งบนคลาวด์จึงสามารถรองรับการขยายขนาดของเว็บไซต์ได้อย่างง่ายดาย
- ความปลอดภัยที่ดีกว่า หมายถึงการป้องกันที่นำเสนอโดยระบบสำรองข้อมูลจำนวนมากของการโฮสติ้งบนคลาวด์ หากมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น ไม่ว่าจะโดยอุบัติเหตุหรือเป็นผลมาจากการโจมตีทางไซเบอร์ที่เป็นอันตราย จะมีสำเนาข้อมูลหลายชุดที่จัดเก็บไว้ในเซิร์ฟเวอร์ต่างๆ ที่สามารถใช้เป็นข้อมูลสำรองได้
ข้อเสียของการโฮสต์บนคลาวด์
- ต้องมีความรู้ทางเทคนิค
- ค่าเว็บโฮสติ้งอาจผันผวนตามการใช้งาน
คุณควรจ่ายค่าเว็บโฮสติ้งเท่าไหร่?
การเลือกงบประมาณสำหรับการโฮสต์เว็บไซต์นั้น ต้องพิจารณาปัจจัยสำคัญหลายประการที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งรวมถึง
- ปริมาณการเข้าชม: ประมาณการการเข้าชมในปัจจุบันและที่คาดการณ์ไว้ โดยเว็บไซต์ที่มีการเข้าชมสูงต้องการทรัพยากรมากขึ้น
- งบประมาณของคุณ: ให้ตัดสินใจว่าคุณสามารถใช้จ่ายได้แค่ไหน โดยคำนึงถึงค่าเว็บโฮสติ้งรายเดือนหรือรายปีและคาดการณ์การเพิ่มขึ้นเมื่อเว็บไซต์ของคุณเติบโต
- พื้นที่เก็บข้อมูลและแบนด์วิธ: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้ให้บริการของคุณสามารถจัดการกับไฟล์ เว็บไซต์ ฐานข้อมูล และอีเมลของคุณได้ มองหาแพ็กเกจที่อนุญาตให้มีการอัปเกรดได้ง่ายโดยไม่ต้องหยุดทำงานหรือยุ่งยาก
- ความเชี่ยวชาญทางเทคนิค: ตัวเลือกการโฮสต์ที่จัดการอาจมีราคาแพงกว่า แต่อาศัยความรู้ทางเทคนิคที่น้อยกว่า เนื่องจากคุณจ่ายให้บริการโฮสติ้งเพื่อจัดการหน้าที่เหล่านั้น
นี่คือตัวอย่างสถานการณ์การโฮสต์เว็บไซต์ที่แตกต่างกันที่ควรพิจารณา
|
ประเภทของเว็บไซต์ |
การเข้าชม |
งบประมาณ |
แพ็กเกจที่แนะนำ |
|---|---|---|---|
|
บล็อกส่วนตัว |
ต่ำ |
ประมาณ 100-150 บาทต่อเดือน |
โฮสต์แบบแชร์ |
|
พอร์ตโฟลิโอ WordPress |
ต่ำ |
ประมาณ 70-300 บาทต่อเดือน |
โฮสต์ WordPress |
|
เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซขนาดเล็ก |
ปานกลาง |
ประมาณ 600-1,200 บาทต่อเดือน |
โฮสต์แบบแชร์หรือ VPS |
|
เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซที่กำลังขยาย |
สูง |
ประมาณ 3,000-6,000 บาทต่อเดือน |
การโฮสต์เฉพาะ |
|
ซอฟต์แวร์หรือแอปเว็บ |
สูง |
ประมาณ 3,000-6,000 บาทต่อเดือน |
การโฮสต์เฉพาะ |
ผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งที่ดีที่สุด
สังเกตว่าหลายแพ็คเกจโฮสติ้งเหล่านี้มีค่าธรรมเนียมเริ่มต้นต่ำประมาณ 100 บาท จากนั้นค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นเมื่อคุณต่ออายุ ราคานี้สะท้อนถึงแพ็กเกจพื้นฐานสำหรับแต่ละโฮสต์ แต่ราคาสามารถแตกต่างกันได้ขึ้นอยู่กับว่าคุณอัปเกรดเป็นแพ็กเกจพรีเมียมหรือไม่
ราคาของ Shopify เริ่มต้นสูงกว่าเพราะเป็นส่วนหนึ่งของแพ็คเกจอีคอมเมิร์ซที่ครบวงจร แพ็คเกจนี้มาพร้อมชื่อโดเมนฟรี แบนด์วิธไม่จำกัดฟังก์ชันการชำระเงิน และการสนับสนุนลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง โดยพื้นฐานแล้ว Shopify มีทุกสิ่งที่คุณต้องการในการขายออนไลน์ตั้งแต่วันแรก
ถ้าอยากรู้รายละเอียดเกี่ยวกับบริการโฮสติ้งอีคอมเมิร์ซชั้นนำและค่าเว็บโฮสติ้ง ลองดู 9 โซลูชันการโฮสต์อีคอมเมิร์ซที่ดีที่สุดในปี 2025
|
บริการโฮสติ้งเว็บไซต์ |
Shopify |
HostGator |
Bluehost |
InMotion Hosting |
A2 Hosting |
SiteGround |
|---|---|---|---|---|---|---|
|
ราคาเริ่มต้น |
ประมาณ 870 บาทต่อเดือน |
เริ่มต้นที่ 150 บาทต่อเดือน |
เริ่มต้นที่ 100 บาทต่อเดือน |
เริ่มต้นที่ 90 บาทต่อเดือน |
เริ่มต้นที่ 100 บาทต่อเดือน |
เริ่มต้นที่ 100 บาทต่อเดือน |
|
ราคาเมื่อหมดอายุ |
เท่ากับราคาเริ่มต้น |
เริ่มต้นที่ 330 บาทต่อเดือน |
เริ่มต้นที่ 360 บาทต่อเดือน |
เริ่มต้นที่ 330 บาทต่อเดือน |
เริ่มต้นที่ 390 บาทต่อเดือน |
เริ่มต้นที่ 600 บาทต่อเดือน |
|
ฟีเจอร์เด่น |
ผลิตภัณฑ์ไม่จำกัด ขายหลายช่องทาง ฟังก์ชันการชำระเงินที่มีประสิทธิภาพ การวิเคราะห์เชิงลึก |
การลงทะเบียนโดเมนฟรีในปีแรก การโอนเว็บไซต์ฟรี |
โดเมนฟรีในปีแรก เครื่องมือการย้ายเว็บไซต์ฟรี |
การโอนเว็บไซต์ฟรี โดเมนฟรีในแพ็กเกจที่เลือก |
การย้ายไซต์ฟรี เสริมความปลอดภัยด้วย HostGuard |
โดเมนฟรี การโอนไซต์ และ CDN |
|
ขีดจำกัดพื้นที่เก็บข้อมูล |
ไม่จำกัด |
ไม่จำกัด |
10 GB |
100 GB |
10 GB |
10 GB |
|
ใช่ |
ใช่ ผ่าน WordPress |
ใช่ ผ่าน WordPress |
ใช่ ผ่าน WordPress |
ใช่ |
ใช่ |
|
|
การรับประกันคืนเงิน |
ทดลองใช้ฟรี 3 วัน หรือทดลองใช้ฟรี 1 เดือนในราคา 100 บาท |
30 วัน |
30 วัน |
90 วัน |
30 วัน |
30 วัน |
|
ใบรับรอง SSL ฟรี |
ใช่ |
ใช่ |
ใช่ |
ใช่ |
ใช่ |
ใช่ |
|
อีเมลธุรกิจฟรี |
ไม่ |
ไม่ |
ไม่ |
ใช่ |
ใช่ |
ใช่ |
|
การรับประกันเวลาออนไลน์ |
99.9% |
99.9% |
99.9% |
99.99% |
99.9% |
99.9% |
ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในค่าเว็บโฮสติ้งและบริการเสริม
เมื่อคำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมดของแพ็กเกจการโฮสต์เว็บไซต์ ให้ลองดูฟีเจอร์เพิ่มเติมที่อาจไม่รวมอยู่ในราคาเริ่มต้น
ใบรับรอง SSL
ใบรับรอง Secure Sockets Layer (SSL) จะยืนยันตัวตนของเว็บไซต์และเข้ารหัสการเชื่อมต่อระหว่างเซิร์ฟเวอร์โฮสต์ของคุณกับเบราว์เซอร์ของผู้ใช้ ซึ่งสามารถป้องกันไม่ให้แฮกเกอร์ดักจับการเชื่อมต่อและเก็บข้อมูลที่ละเอียดอ่อนที่ส่งผ่านเว็บไซต์ของคุณ เช่น หมายเลขบัตรเครดิตและที่อยู่ในการเรียกเก็บเงิน
ใบรับรอง SSL มักจะฟรี ตัวอย่างเช่น Shopify ให้ใบรับรอง SSL ฟรีไม่ว่าคุณจะซื้อหรือเชื่อมต่อโดเมนกับ Shopify ก็ตาม ในขณะที่ผู้ให้บริการโฮสติ้งเว็บไซต์รายอื่นคิดค่าบริการสูงถึงปีละ 6,000 บาท
การย้ายเว็บไซต์
หากผู้ให้บริการโฮสต์ปัจจุบันของคุณไม่สามารถรับประกันความเร็วในการโหลดเว็บไซต์ที่รวดเร็วหรือมีค่าเว็บโฮสติ้งแพงเกินไป คุณอาจย้ายเว็บไซต์ของคุณไปยังผู้ให้บริการโฮสต์อื่น กระบวนการนี้อาจมีค่าธรรมเนียมประมาณ 5,000 บาทขึ้นไป ถึงแม้ผู้ให้บริการบางรายจะจ่ายค่าใช้จ่ายบางส่วนของกระบวนการย้ายให้เพื่อดึงดูดคุณ
พื้นที่เก็บข้อมูลและแบนด์วิธเพิ่มเติม
เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซระดับองค์กรมีคลังเนื้อหาขนาดใหญ่บนเว็บไซต์ ตั้งแต่ภาพสินค้าไปจนถึงเครื่องมือวิเคราะห์ขั้นสูง สิ่งนี้เมื่อรวมกับปริมาณการเข้าชมที่สูง หมายความว่าผู้ให้บริการจะต้องใช้ทรัพยากรเพิ่มเติม (เช่น CDN) เพื่อโฮสต์เว็บไซต์ของคุณ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
การจดทะเบียนโดเมน
ผู้ให้บริการหลายรายมีบริการจดทะเบียนโดเมน แต่เป็นค่าใช้จ่ายแยกต่างหากจากการโฮสต์เว็บไซต์ โดยราคามักอยู่ที่ปีละ 300 ถึง 1,500 บาท ตรงนี้ขึ้นอยู่กับนามสกุลโดเมน (.com, .org, ฯลฯ) และข้อเสนอโปรโมชั่นต่างๆ
โปรดทราบว่าคุณไม่สามารถซื้อโดเมนได้ โดยเป็นการที่คุณเช่าโดเมนจากผู้จดทะเบียน คุณจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการต่ออายุทุกครั้งที่โดเมนหมดอายุ ผู้ให้บริการจดทะเบียนชื่อโดเมนส่วนใหญ่จะขึ้นราคาเมื่อหมดระยะเวลาที่คุณเช่า
ความปลอดภัยที่ดีขึ้น
การปกป้องเว็บไซต์ขั้นสูง เช่น การป้องกัน DDoS, การสแกนหามัลแวร์ และไฟร์วอลล์ที่ได้รับการปรับปรุง มักจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้มักเป็นการลงทุนที่ชาญฉลาดสำหรับเจ้าของธุรกิจออนไลน์ เพราะการแก้ไขปัญหาการรั่วไหลของข้อมูลหรือปัญหาด้านความปลอดภัยอาจมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการติดตั้งมาตรการรักษาความปลอดภัยทางเว็บไซต์มาก
การโฮสต์อีเมล
การโฮสต์อีเมลช่วยให้คุณใช้เซิร์ฟเวอร์ของผู้ให้บริการโฮสต์และโดเมนที่กำหนดเองเพื่อโฮสต์อีเมล บางครั้งจะรวมอยู่ในค่าเว็บโฮสติ้ง แต่บางครั้งก็แยกต่างหาก โดยค่าใช้จ่ายในการโฮสต์อีเมลมักอยู่ที่เดือนละ 30 ถึง 450 บาท
คุณจะไม่ต้องจ่ายค่าเว็บโฮสติ้งเลยได้หรือไม่?
คุณสามารถโฮสต์เว็บไซต์ฟรีได้โดยใช้โปรแกรมสร้างเว็บไซต์อย่าง WordPress.com หรือ HubSpot แต่ก็ต้องยอมรับเรื่องฟังก์ชันการใช้งานที่น้อยลง
ความเร็วในการโหลดเว็บไซต์มักจะช้าลงเมื่อใช้แพ็กเกจโฮสติ้งฟรี เนื่องจากคุณใช้เซิร์ฟเวอร์ร่วมกับเว็บไซต์อื่นๆ อีกหลายเว็บไซต์ นอกจากนี้ยังอาจไม่มีคุณสมบัติขั้นสูง เช่น ใบรับรอง SSL, การโฮสต์อีเมล และโดเมนที่กำหนดเอง ผู้ให้บริการโฮสติ้งฟรีส่วนใหญ่กำหนดให้คุณใช้ซับโดเมน (เช่น yourwebsite.wordpress.com) ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อความน่าเชื่อถือของแบรนด์ของคุณ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับค่าเว็บโฮสติ้ง
ค่าเว็บโฮสติ้งคิดเป็นรายปีหรือรายเดือน?
ค่าเว็บโฮสติ้งจะขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งของคุณ โดยอาจคิดเป็นรายเดือนหรือรายปี ผู้ให้บริการมักเสนอส่วนลดให้กับค่าเว็บโฮสติ้งแบบรายปี เนื่องจากเป็นการรับประกันว่าคุณจะใช้บริการของพวกเขาเป็นเวลาหนึ่งปีเต็ม
ค่าเว็บโฮสติ้งอยู่ที่เดือนละเท่าไหร่?
ราคาจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเภทของเว็บโฮสติ้งและขอบเขตของบริการที่ให้บริการ โดยทั่วไปแล้วเว็บโฮสติ้งแบบแชร์ (Shared hosting) จะมีค่าเว็บโฮสติ้งอยู่ที่เดือนละ 150 ถึง 600 บาท เว็บโฮสติ้งแบบ VPS จะมีค่าเว็บโฮสติ้งอยู่ที่เดือนละ 600 ถึง 1,200 บาท และเว็บโฮสติ้งแบบคลาวด์จะมีค่าเว็บโฮสติ้งเริ่มต้นที่เดือนละ 1,500 บาท และอาจสูงขึ้นตามความต้องการของลูกค้า
ค่าเว็บโฮสติ้งโดยเฉลี่ยอยู่ที่เท่าไหร่?
โดยเฉลี่ยแล้ว แพ็กเกจการโฮสต์แบบแชร์พื้นฐานมักมีค่าเว็บโฮสติ้งเดือนละ 100 ถึง 300 บาท ในขณะที่ตัวเลือกที่มีประสสิทธิภาพมากขึ้น เช่น VPS หรือแพ็กเกจการโฮสต์เฉพาะอาจมีค่าเว็บโฮสติ้งที่เดือนละ 600 บาทขึ้นไป
ทำไมค่าเว็บโฮสติ้งถึงแพง?
ค่าเว็บโฮสติ้งสะท้อนถึงโครงสร้างพื้นฐาน ทรัพยากร และบริการที่จำเป็นในการทำให้เว็บไซต์ออนไลน์และปลอดภัยอยู่เสมอ แพ็กเกจพื้นฐานอาจมีราคาไม่แพง แต่ราคาจะสูงขึ้นตามประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น พื้นที่จัดเก็บข้อมูลมากขึ้น และคุณสมบัติขั้นสูง เพื่อรองรับเว็บไซต์ที่เติบโตขึ้นและปริมาณการเข้าชมที่มากขึ้น
ค่าบริการโฮสติ้งคืออะไร?
ค่าบริการโฮสติ้งคือค่าใช้จ่ายที่จ่ายให้กับบริษัทที่จัดเก็บไฟล์เว็บไซต์บนเซิร์ฟเวอร์ของตนและทำให้สามารถเข้าถึงได้ทางออนไลน์ ค่าบริการเหล่านี้ครอบคลุมพื้นที่เซิร์ฟเวอร์ แบนด์วิดท์ ความปลอดภัย และบริการสนับสนุนที่จำเป็นเพื่อให้เว็บไซต์ใช้งานได้และพร้อมให้บริการแก่ผู้เข้าชมตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน
ค่าใช้จ่ายในการโฮสต์อีเมลอยู่ที่เท่าไหร่?
บริการอีเมลโฮสติ้งเป็นบริการแยกต่างหากจากบริการเว็บโฮสติ้ง แต่สามารถรวมอยู่ในบริการของเว็บโฮสติ้งได้ โดยทั่วไปจะมีค่าใช้จ่ายเดือนละ 30 ถึง 45 บาท แต่ค่าใช้จ่ายอาจแตกต่างกันไปตามผู้ให้บริการอีเมลโฮสติ้งที่คุณใช้ และพวกเขามีบริการอื่นๆ ด้วยหรือไม่


