โซเชียลคอมเมิร์ซ คือการผสมผสานระหว่างโซเชียลมีเดียกับฟีเจอร์อีคอมเมิร์ซ ที่ช่วยให้แบรนด์เข้าถึงลูกค้าในที่ที่พวกเขาใช้งานมากที่สุด ถ้าคุณขายสินค้าแค่บนเว็บไซต์ตัวเอง อาจพลาดโอกาสเจอลูกค้าใหม่ ๆ ไปก็ได้
นี่คือวิธีเปิดร้านค้าใน Facebook
ร้านค้าใน Facebook คืออะไร?
Facebook Shops คือมาร์เก็ตเพลสออนไลน์ที่อยู่บนแพลตฟอร์มโซเชียล Facebook ซึ่งเปิดให้คุณตั้งร้านค้าออนไลน์ได้ทั้งบนเพจ Facebook และโปรไฟล์ Instagram ลองนึกถึง Facebook Shops ว่าเป็นได้ทั้งช่องทางขายสินค้าและโซเชียลแพลตฟอร์มในที่เดียวกัน
ด้วย Facebook Shops คนซื้อสามารถเสิร์ชและกดสั่งของได้ตรงจากแอป Facebook เลย ระบบยังเลือกฟีดที่ตรงกับความสนใจของแต่ละคนมาให้ ถ้ามีร้านออนไลน์อยู่แล้ว การเปิดร้านใน Facebook ช่วยให้เข้าถึงลูกค้าได้กว้างขึ้น ทั้งคนที่ติดตามอยู่แล้วและกลุ่มใหม่ ๆ ที่สนใจ
เงื่อนไขวิธีเปิดร้านค้าใน Facebook
ถ้าอยากให้สินค้าไปโผล่ใน Facebook Shops ร้านต้องขายของที่จับต้องได้และทำตามกฎของ Meta โดยหลัก ๆ คือ
- มีตัวตนออนไลน์ที่ชัดเจน อาจต้องยืนยันข้อมูลหรือธุรกิจ
- ทำตามนโยบายของ Meta และ Facebook
- ถ้ามีเว็บของตัวเองแล้วลิงก์ไปยัง Facebook Shops ต้องยืนยันโดเมนก่อน
- ร้านต้องอยู่ในพื้นที่ที่ Facebook Shops เปิดให้บริการ
- ข้อมูลสินค้าต้องตรงไปตรงมา ทั้งราคา สต็อก เงื่อนไขคืน และการขอเงินคืน
วิธีเปิดร้านค้าใน Facebook
- เช็กสิทธิ์การเข้าถึงเพจ Facebook
- สร้างร้านค้า
- ตั้งค่า Checkout กับ Facebook
- เชื่อมต่อเพจ Facebook
- เลือกแคตตาล็อกสินค้า
- ปิดขั้นตอนการตั้งค่า
นี่คือวิธีเปิดร้านค้าใน Facebook โดยใช้ Facebook Commerce Manager ซึ่งช่วยให้จัดการและติดตามยอดขายได้ทั้งบน Facebook และ Instagram ตั้งแต่การตั้งร้านค้าออนไลน์ การจัดการสต็อก ไปจนถึงการวิเคราะห์ข้อมูลการขาย
(ถ้าใช้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง Shopify สามารถข้ามไปดูในหัวข้อถัดไปเพื่อเรียนรู้การซิงก์อัตโนมัติระหว่างร้าน Shopify และ Facebook Shop ได้เลย)
1. เช็กสิทธิ์การเข้าถึงเพจ Facebook
ถ้ามีเพจธุรกิจและแคตตาล็อกสินค้าอยู่แล้ว ให้แน่ใจว่าได้เปิดสิทธิ์ “Manage page” และ “Manage catalog” สำหรับบัญชีธุรกิจเรียบร้อย ถ้ายังไม่มีเพจหรือแคตตาล็อก ก็สามารถสร้างได้ตอนตั้งร้าน
2. สร้างร้านค้า
ไปที่หน้าสร้างร้านค้า (Create your shop) แล้วล็อกอินด้วยบัญชี Facebook ถ้าใช้ Shopify หรือแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่รองรับ Facebook Shops ให้เลือก “Sync a partner platform” เพื่อเชื่อมต่อเสร็จในฝั่งพาร์ทเนอร์ แต่ถ้าไม่ได้ใช้ ให้ทำตามขั้นตอนที่ Facebook แนะนำเพื่อสร้างร้านค้า
3. ตั้งค่า Checkout กับ Facebook
ตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน 2023 เป็นต้นไป ร้านค้าใหม่ในสหรัฐฯ ต้องใช้ Checkout with Facebook ซึ่งทำให้ลูกค้าจ่ายเงินได้โดยไม่ต้องออกจาก Facebook (ส่วนร้านที่เปิดก่อนหน้านั้นในสหรัฐฯ ต้องเปิดใช้ Checkout with Facebook ภายใน 24 เมษายน 2024 ถ้ายังไม่ได้ตั้งค่า)
การเปิดใช้เช็คเอ้าท์กับทางเฟสบุ๊ก ต้องมีบัญชีธนาคารในสหรัฐฯ ที่อยู่ธุรกิจในสหรัฐฯ เลขทะเบียนภาษี (federal tax identification number) และข้อมูลยืนยันตัวตน เช่น ใบขับขี่หรือพาสปอร์ต เพื่อยืนยันธุรกิจ
4. เชื่อมต่อเพจ Facebook
ขั้นตอนนี้สามารถเชื่อมเพจ Facebook และบัญชีธุรกิจที่มีอยู่แล้วเข้ากับร้านค้าได้เลย หรือถ้าไม่มี ก็สร้างใหม่ได้ทันที
5. เลือกแคตตาล็อกสินค้า
แคตตาล็อกก็เหมือนกล่องเก็บข้อมูลสินค้า ทั้งที่ใช้โฆษณาหรือขาย ถ้ามีแคตตาล็อกอยู่แล้วก็เอามาใช้กับร้านค้า Facebook ได้เลย แต่ถ้ายังไม่มี Facebook จะสร้างโฟลเดอร์เปล่าไว้ให้ แล้วค่อยเพิ่มสินค้าเข้าไปทีหลัง
6. ปิดขั้นตอนการตั้งค่า
ตรวจสอบรายละเอียดร้านค้าอีกครั้งให้เรียบร้อย กดยืนยัน และยอมรับข้อตกลงผู้ขายของ Facebook เท่านี้ก็มี Facebook Shop พร้อมใช้งานแล้ว หลังจากนั้นสามารถปรับแต่งหน้าร้านด้วยโทนสีแบรนด์ เพิ่มสินค้าเข้าแคตตาล็อก เลือกว่าจะโชว์สินค้าชิ้นไหน และจัดเป็นคอลเลกชันได้ พอทุกอย่างพร้อม กด Publish ร้านก็จะออนไลน์ทันทีหลังจาก Facebook ตรวจสอบและอนุมัติ
วิธีจัดการ Facebook Shop ด้วยแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ
- ใช้แอป Facebook & Instagram บน Shopify
- ซิงก์แพลตฟอร์มพาร์ทเนอร์ระหว่างตั้งค่า
- นำเข้าสินค้าใน Commerce Manager ภายหลัง
หลายแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ รวมถึง Shopify รองรับการเชื่อมต่อกับ Meta (บริษัทแม่ของ Facebook) ทำให้การนำเข้าหรือซิงก์แคตตาล็อกสินค้าง่ายขึ้นมาก โดยมี 3 วิธีหลัก ๆ คือ
1. ใช้แอป Facebook & Instagram บน Shopify
ถ้าใช้ Shopify อยู่แล้ว สามารถสร้าง Facebook Shop ได้แบบง่ายสุด ๆ แค่เข้าไปที่ Shopify App Store แล้วดาวน์โหลดแอป Facebook & Instagram จากนั้นก็จัดการออเดอร์จาก Facebook Shops ได้โดยตรงผ่านแอดมิน Shopify
2. ซิงก์แพลตฟอร์มพาร์ทเนอร์ระหว่างตั้งค่า
ถ้ามีเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซกับแพลตฟอร์มยอดนิยม แต่ยังไม่ได้เปิด Facebook Shop สามารถเชื่อมต่อแคตตาล็อกสินค้าได้ตอนตั้งร้านค้าใหม่ เพียงไปที่หน้า Create your shop แล้วเลือก “Sync a partner platform” ทางด้านขวา Facebook จะพาไปทำขั้นตอนต่อบนแพลตฟอร์มพาร์ทเนอร์ทันที
3. นำเข้าสินค้าใน Commerce Manager ภายหลัง
ถ้าไม่ได้เชื่อมแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซไว้ตั้งแต่แรก ก็ยังทำได้ทีหลัง การเชื่อมแพลตฟอร์มพาร์ทเนอร์จะช่วยให้นำเข้าแคตตาล็อกเดิมมาได้ง่าย ตัวอย่างแพลตฟอร์มที่เชื่อมได้ เช่น
- Shopify
- adMixt
- BigCommerce
- CedCommerce
- ChannelAdvisor
- CommerceHub
- DataCaciques
- Ecwid
- Feedonomics
- GoDaddy (เฉพาะในอเมริกา)
- Magento
- OpenCart
- Quip
- Shift4Shop
- Wix
- WooCommerce
พอเชื่อมแพลตฟอร์มกับ Facebook Shop แล้ว สามารถจัดการแคตตาล็อกจากฝั่งแพลตฟอร์มได้เลย การเปลี่ยนแปลงจะซิงก์เข้ากับ Facebook อัตโนมัติ และถ้าอยากดูการซิงก์ล่าสุด ให้เข้าไปที่ Commerce Manager > Catalog > Data sources
Facebook ยังแนะนำว่า หลังเชื่อมต่อกับพาร์ทเนอร์แล้ว ควรจัดการแคตตาล็อกผ่านแพลตฟอร์มนั้นโดยตรง ไม่ควรแก้ใน Commerce Manager ตรง ๆ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับวิธีเปิดร้านค้าใน Facebook
เราจะมีวิธีเปิดร้านค้าใน Facebook ให้น่าสนใจได้ยังไง?
การทำให้ Facebook Shop ดูน่าเชื่อถือเริ่มจากการมีเพจธุรกิจและเชื่อมต่อแคตตาล็อกสินค้าให้เรียบร้อย อย่าลืมใช้รูปสินค้าคุณภาพสูง เขียนคำบรรยายให้น่าสนใจ และลองใช้ Facebook Ads เพื่อดึงทราฟฟิกเข้ามาที่ร้าน พร้อมทั้งฟังเสียงลูกค้า คอมเมนต์หรือรีวิวจะช่วยให้ปรับปรุงสินค้าและทำให้ประสบการณ์ช้อปดีขึ้น
เพิ่มสินค้าใน Facebook Shop ยังไง?
ถ้าใช้ Shopify หรือแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่รองรับอยู่แล้ว สินค้าจะซิงก์เข้าร้าน Facebook อัตโนมัติ แต่ถ้าอยากเพิ่มเอง ให้เข้าไปที่ Facebook Commerce Manager > Catalog > Data Sources > Add Manually
เปิดร้านใน Facebook มีค่าใช้จ่ายหรือไม่?
การตั้งค่าเปิดร้านค้าใน Facebook ฟรี แต่ Meta จะคิดค่าธรรมเนียม 5% ต่อการจัดส่ง ถ้าใช้ Shopify Payments ก็จะเสียค่าธรรมเนียมตามปกติของ Shopify ไม่ใช่ Meta
ขายของบน Facebook ไม่ต้องมีเว็บไซต์ได้มั้ย?
ได้ คุณไม่จำเป็นต้องมีเว็บก็เปิดร้านบน Facebook ได้ แค่มีเพจธุรกิจก็เริ่มขายสินค้าได้แล้ว หรือจะใช้ Facebook Marketplace และกลุ่มต่าง ๆ ใน Facebook เป็นช่องทางขายก็ได้เหมือนกัน


