เปิดสูตร 11 วิธีเพิ่มยอดขายให้ร้านออนไลน์ กลยุทธ์ที่ใช้ได้ทันที

หากคุณต้องการเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจของคุณ เรามี 3 ทางเลือก ได้แก่ ลดต้นทุน ขึ้นราคา หรือเพิ่มยอดขาย สองตัวเลือกแรกนั้นมีข้อจำกัด คุณสามารถลดต้นทุนได้ในระดับหนึ่งเท่านั้นโดยไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน และการขึ้นราคามากเกินไปจะทำให้สูญเสียลูกค้า

การเพิ่มยอดขายคือจุดที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงสุดสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ในทางทฤษฎีแล้ว ไม่มีขีดจำกัดว่าคุณสามารถเพิ่มยอดขายได้มากเพียงใด คุณเพียงแค่ต้องสร้างศักยภาพภายในให้เพียงพอต่อความต้องการ การเพิ่มยอดขายอีคอมเมิร์ซสามารถช่วยให้คุณมีเงินในกระเป๋ามากขึ้น และช่วยให้บริษัทของคุณมีอนาคตที่มั่นคงในระยะยาว เรียนรู้กลยุทธ์ต่างๆ ที่จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมาย

ปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อวิธีเพิ่มยอดขายให้ร้านออนไลน์

ปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อยอดขายอีคอมเมิร์ซ ได้แก่ เทรนด์ของตลาด การดำเนินการของคู่แข่ง และปริมาณลูกค้า เพื่อกระตุ้นยอดขาย ให้มุ่งเน้นไปที่การเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ เปลี่ยนผู้เข้าชมให้เป็นลูกค้า และส่งเสริมมูลค่าคำสั่งซื้อเฉลี่ยให้สูงขึ้น การวิเคราะห์ตัวชี้วัดเหล่านี้สามารถช่วยปรับปรุงกลยุทธ์การขายของคุณได้

การปรับปรุงประสิทธิภาพในเรื่องใดเรื่องหนึ่งเหล่านี้สามารถช่วยให้เจ้าของร้านค้าอีคอมเมิร์ซเพิ่มยอดขายได้

ปริมาณการเข้าชมร้านค้าอีคอมเมิร์ซ

ปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์หมายถึงจำนวนการเข้าชมร้านค้าออนไลน์ของคุณ โดยทั่วไปแล้วปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์ที่เพิ่มขึ้นหมายถึงจำนวนลูกค้าเป้าหมายที่มากขึ้นและยอดขายที่เพิ่มขึ้น

อัตรา Conversion

อัตรา Conversion อีคอมเมิร์ซ คือเปอร์เซ็นต์ของผู้เข้าชมร้านค้าออนไลน์ของคุณที่ซื้อสินค้า การเพิ่มอัตรา Conversion สามารถช่วยเพิ่มยอดขายได้ แม้ว่าคุณจะไม่ได้เพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ก็ตาม

รายได้เฉลี่ยตลอดอายุการใช้งานของลูกค้า

รายได้เฉลี่ยตลอดอายุการใช้งานของลูกค้า (CLV) คือประมาณการรายได้ทั้งหมดที่คุณได้รับตลอดระยะเวลาความสัมพันธ์ของลูกค้ากับธุรกิจของคุณ ซึ่งขึ้นอยู่กับมูลค่าของการขายแต่ละครั้ง ความถี่ในการซื้อ และอัตราการรักษาลูกค้า การปรับปรุงการรักษาลูกค้า เพิ่มการซื้อซ้ำ หรือเพิ่มมูลค่าเฉลี่ยของการขายแต่ละครั้ง สามารถเพิ่มมูลค่าของลูกค้าได้

วิธีเพิ่มยอดขายให้ร้านออนไลน์

1. ปรับปรุงช่องทางการขายของคุณ
2. เปิดตัวแคมเปญโฆษณาที่ต้องชำระเงิน
3. ร่วมมือกับอินฟลูเอนเซอร์
4. ใช้การตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย
5. เปิดใช้งานการช็อปปิ้งในแอป
6. เริ่มแคมเปญการตลาดทางอีเมล
7. ปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ในเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของคุณ
8. ลดการละทิ้งรถเข็น
9. เสนอส่ิงจูงใจในการซื้อ
10. เริ่มโปรแกรมสร้างความภักดี
11. มอบการบริการที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้า

กลยุทธ์วิธีเพิ่มยอดขายให้ร้านออนไลน์ที่ดีที่สุดขึ้นอยู่กับรูปแบบธุรกิจ งบประมาณการตลาด และจุดแข็งและจุดอ่อนของช่องทางการขายของคุณ แนวคิดเหล่านี้สามารถช่วยเพิ่มการเข้าชมร้านค้าออนไลน์ เพิ่มอัตรา Conversion และเพิ่มการรักษาลูกค้าและความภักดีของลูกค้า

1. ปรับปรุงช่องทางการขายของคุณ

คุณสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของคุณโดยใช้เมตริกเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ เพื่อระบุจุดอ่อนในช่องทางการขาย ของคุณ ตัวอย่างเช่น หากคุณมีอัตรา Conversion สูงแต่มีผู้เข้าชมเว็บไซต์ค่อนข้างน้อย คุณอาจมุ่งเน้นไปที่กลยุทธ์การตลาดช่องทางการขายข้างต้น เช่น แคมเปญโซเชียลมีเดียและโฆษณาที่ต้องชำระเงิน หากคุณมีการเข้าชมเว็บไซต์มากแต่มีอัตรา Conversion ต่ำ คุณอาจมุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงประสบการณ์การช็อปปิ้งออนไลน์สำหรับผู้เข้าชมเว็บไซต์

2. เปิดตัวแคมเปญโฆษณาที่ต้องชำระเงิน

การลงโฆษณาแบบที่ต้องชำระเงินเป็นวิธีเพิ่มยอดขายให้ร้านออนไลน์ที่ช่วยให้คุณเพิ่มการเข้าชมเว็บฯ ได้อย่างรวดเร็ว แคมเปญโฆษณาที่ต้องชำระเงินสามารถครอบคลุมทั้งรูปแบบโฆษณาแบบดั้งเดิม (เช่น โฆษณากลางแจ้งบนป้ายโฆษณา โฆษณาสิ่งพิมพ์ในนิตยสารและหนังสือพิมพ์ทั้งแบบปกติและออนไลน์ รวมถึงโฆษณาทางโทรทัศน์และวิทยุ) และโฆษณาดิจิทัล (เช่น โฆษณาบนโซเชียลมีเดีย โฆษณาแบบดิสเพลย์ และโฆษณาบนเสิร์ชเอ็นจิ้น)

การโฆษณาดิจิทัลสามารถเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ มันสามารถเข้าถึงผู้ชมจำนวนมากและกระจายอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ช่วยให้ธุรกิจสามารถกำหนดเป้าหมายลูกค้าเป้าหมายตามปัจจัยด้านประชากรศาสตร์ ความสนใจ และพฤติกรรมการเรียกดูเว็บไซต์ โฆษณาดิจิทัลยังช่วยให้ลูกค้าเป้าหมายสามารถคลิกผ่านไปยังเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของคุณได้โดยตรง ช่วยให้คุณระบุยอดขายจากโฆษณาแต่ละรายการได้อย่างง่ายดาย

3. ร่วมมือกับอินฟลูเอนเซอร์

การตลาดแบบอินฟลูเอนเซอร์ เป็นการร่วมมือกับครีเอเตอร์อย่างน้อยหนึ่งคนเพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์และเพิ่มยอดขาย ซึ่งอาจช่วยเพิ่มการเข้าถึงและสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้าเป้าหมายในกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ

การร่วมมือกับอินฟลูเอนเซอร์มีหลายรูปแบบ โปรแกรมของขวัญที่ไม่มีค่าใช้จ่ายคือการที่แบรนด์ต่างๆ มอบสินค้าฟรีให้กับครีเอเตอร์โดยหวังว่าจะได้รับการกล่าวถึง ในขณะที่การเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ระยะยาวเกี่ยวข้องกับการสร้างความร่วมมือระยะยาวกับครีเอเตอร์

การแจกโค้ดส่วนลดเป็นวิธีเพิ่มยอดขายให้ร้านออนไลน์อีกหนึ่งวิธีที่มีประสิทธิภาพอย่างยิ่งในการใช้การตลาดแบบอินฟลูเอนเซอร์เพื่อกระตุ้นยอดขาย ค้นหาอินฟลูเอนเซอร์ที่ได้รับความนิยมจากลูกค้าเป้าหมายของคุณ และตอบแทนพวกเขาด้วยการแจกโค้ดส่วนลดให้กับผู้ติดตามของพวกเขา

4. ใช้การตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย

หากเป้าหมายหนึ่งของคุณคือการเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมร้านค้าอีคอมเมิร์ซ คุณสามารถใช้การตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย เพื่อเพิ่มการรับรู้แบรนด์ ให้ความรู้แก่ผู้ชมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ เพิ่มจำนวนผู้ติดตาม และกระตุ้นให้ลูกค้าคลิกผ่านไปยังเว็บไซต์ของคุณ การตลาดโซเชียลมีเดียยังช่วยให้คุณรักษาลูกค้าไว้และกระตุ้นให้เกิดการซื้อซ้ำ โดยมอบคุณค่าระยะยาวให้กับพวกเขา

เพื่อเพิ่มผลตอบแทนสูงสุด ให้เลือกแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ลูกค้าเป้าหมายของคุณใช้งานอยู่ใช้เครื่องมือการจัดการโซเชียลมีเดีย เพื่อช่วยคุณสร้างและกำหนดเวลาเนื้อหาที่มีคุณภาพ โต้ตอบกับผู้เข้าชม และติดตามผล

5. เปิดใช้งานการช็อปปิ้งในแอป

การช้อปปิ้งในแอปช่วยลดอุปสรรคในการซื้อ โดยเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อสามารถซื้อสินค้าที่โฆษณาบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียได้โดยไม่ต้องออกจากแอป หากคุณโฆษณาบน TikTok, Instagram, หรือ Facebook คุณก็สามารถเพิ่มยอดขายออนไลน์ได้ด้วยการใช้ประโยชน์จากฟังก์ชันการช้อปปิ้งในแอปของแพลตฟอร์มเหล่านี้

6. เริ่มแคมเปญการตลาดทางอีเมล

เช่นเดียวกับการตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย, การตลาดทางอีเมล สามารถเพิ่มการรับรู้แบรนด์, กระตุ้นให้ให้เกิดการคลิกผ่านไปยังเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซและสร้างยอดขาย นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มการรักษาลูกค้าและกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำอีกด้วย ตัวอย่างเช่น คุณสามารถส่งจดหมายข่าวทางอีเมล เพื่อมอบความบันเทิงหรือคุณค่าทางการศึกษาให้กับลูกค้า เพิ่มความภักดีของลูกค้า และทำให้แบรนด์ของคุณอยู่ในใจเป็นอันดับแรก คุณยังสามารถใช้อีเมลส่งเสริมการขายเพื่อประกาศสินค้าใหม่ โฆษณาลดราคา หรือกิจกรรมอื่นๆ ได้อีกด้วย

7. ปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ในเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของคุณ

เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซที่มีประสิทธิภาพจะต้องสวยงาม ใช้งานง่าย และดึงดูดใจ ตรวจสอบเว็บไซต์ของคุณ โดยให้ความสำคัญกับองค์ประกอบต่อไปนี้เป็นพิเศษ

การออกแบบและการสร้างแบรนด์

การออกแบบร้านค้าออนไลน์ของคุณสะท้อนแบรนด์ของคุณได้อย่างถูกต้องหรือไม่ ลูกค้าค้นหาสิ่งที่ต้องการได้ง่ายหรือไม่ คุณมีหน้าแรกที่ดึงดูดสายตาและดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาดูเว็บไซต์ของคุณหรือไม่

หน้าผลิตภัณฑ์

หน้าสินค้าผลิตภัณฑ์มีรูปภาพสินค้าคุณภาพสูงหรือไม่? คำอธิบายสินค้าเป็นปัจจุบันหรือไม่ และมีข้อมูลที่ลูกค้าต้องการเพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อหรือไม่ รีวิวของลูกค้าแสดงอย่างชัดเจนหรือไม่ เป็นเชิงบวกหรือเชิงลบ

กระบวนการชำระเงิน

ขั้นตอนการชำระเงินของคุณง่ายและสะดวกหรือไม่? คุณรับชำระเงินได้หลายรูปแบบและมีบริการสนับสนุนลูกค้าระหว่างขั้นตอนการชำระเงินหรือเปล่า

การแสดงผลบนมือถือ

เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของคุณได้รับการปรับแต่งให้เหมาะสำหรับการแสดงผลบนอุปกรณ์มือถือหรือไม่ ฟังก์ชันหลักๆ เช่น ช่องทางชำระเงินและฝ่ายบริการลูกค้า ใช้งานได้กับอุปกรณ์มือถือหรือไม่

การใช้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง Shopify คือหนึ่งในวิธีเพิ่มยอดขายให้ร้านออนไลน์ที่สามารถช่วยคุณเพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจได้

8. ลดการละทิ้งรถเข็น

หนึ่งในวิธีเพิ่มยอดขายให้ร้านออนไลน์ คือการโฟกัสกับอัตราการละทิ้งรถเข็น ซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 70% นั่นหมายความว่าลูกค้าทุกๆ 3 คนที่ซื้อสินค้าจากร้านค้าออนไลน์ของคุณ จะมี 7 คนที่เลิกซื้อสินค้าระหว่างขั้นตอนการช้อปปิ้งหรือการชำระเงิน อีเมลเตือนความจำและโฆษณารีทาร์เก็ตติ้งสามารถช่วยลดอัตราการละทิ้งรถเข็นได้ แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการชำระเงิน เช่นการรับการชำระเงินที่หลากหลายรูปแบบก็สามารถช่วยได้เช่นกัน

9. เสนอสิ่งจูงใจในการซื้อ

การเสนอสิ่งจูงใจในการซื้อสามารถช่วยเพิ่มยอดขายอีคอมเมิร์ซได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากลูกค้ากำลังออกจากขั้นตอนการซื้อระหว่างการชำระเงิน คุณอาจเสนอส่วนลดสำหรับการซื้อครั้งแรกของลูกค้าเพื่อแลกกับการสมัครรับอีเมลทางการตลาด เสนอส่วนลดสำหรับคำสั่งซื้อทั้งหมดที่มีมูลค่าเกินกว่าที่กำหนด คุณยังสามารถเสนอบริการจัดส่งฟรี การคืนสินค้าฟรี หรือการรับประกันคืนเงิน เพื่อลดอุปสรรคในการซื้อ

10. เริ่มโปรแกรมสร้างความภักดี

โปรแกรมสร้างความภักดี คือวิธีเพิ่มยอดขายให้ร้านออนไลน์ โดยเป็นกลยุทธ์การสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าที่ให้ความสำคัญและให้รางวัลแก่ลูกค้าที่ภักดีที่สุดของธุรกิจ นอกจากนี้ ธุรกิจต่างๆ ยังใช้โปรแกรมเหล่านี้เพื่อจูงใจพฤติกรรมบางอย่าง เช่น การซื้อสินค้าหรือการแนะนำลูกค้าใหม่ โปรแกรมสร้างความภักดีสามารถช่วยให้ธุรกิจเพิ่มยอดขายอีคอมเมิร์ซได้ด้วยการปรับปรุงอัตราการรักษาลูกค้า กระตุ้นการซื้อซ้ำ และเพิ่มมูลค่าคำสั่งซื้อเฉลี่ย

11. มอบการบริการที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้า

มากกว่า 70% ของผู้ซื้อกล่าวว่าพวกเขายินดีที่จะใช้จ่ายเงินมากขึ้นให้กับธุรกิจที่มีการบริการที่ดี ซึ่งหมายความว่าการทำเช่นนี้จะช่วยเพิ่มยอดขายให้กับฐานลูกค้าเดิมของคุณ นอกจากนี้ยังช่วยปรับปรุงการรักษาลูกค้าและเพิ่มมูลค่าคำสั่งซื้อเฉลี่ยของคุณอีกด้วย แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด ได้แก่ การให้การสนับสนุนผ่านหลายช่องทาง การเปิดใช้งานระบบบริการตนเอง และการใช้ความคิดเห็นของลูกค้าเพื่อประเมินประสิทธิภาพของคุณ