Pinterest มีผู้ใช้งานมากกว่า 537 ล้านคนต่อเดือน และไม่ได้เป็นแค่แพลตฟอร์มสำหรับหาไอเดียแต่งงานหรือโปรเจกต์ DIY เท่านั้น
ที่นี่คือแพลตฟอร์มที่ผู้คนเข้ามาเพื่อค้นหาสินค้า บริการ และไอเดียที่จะช่วยยกระดับการใช้ชีวิต ที่สำคัญคือผู้ใช้ Pinterest มาด้วย “ความตั้งใจ” ไม่ใช่การไถหน้าจอไปเรื่อย ๆ พวกเขามาเพื่อวางแผนซื้อสินค้า คิดโปรเจกต์ใหม่ ๆ และเรียนรู้ทักษะเพิ่มเติม
ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก คอนเทนต์ครีเอเตอร์ หรือแค่อยากลองเข้าสู่โลกอีคอมเมิร์ซ Pinterest ก็มอบโอกาสพิเศษในการเชื่อมต่อกับกลุ่มคนที่มีส่วนร่วมสูง และเปลี่ยนการเชื่อมต่อนั้นให้กลายเป็นรายได้หรือวิธีหาเงินทาง Pinterest ได้จริง
Pinterest คืออะไร?
Pinterest คือเสิร์ชเอนจิน หรือเครื่องมือสำหรับค้นหาภาพและแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ค้นหา บันทึก และแชร์ไอเดียผ่านรูปภาพและวิดีโอ ซึ่งถูกเรียกว่า pins
Pinterest ถูกใช้ในหลายวัตถุประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นแรงบันดาลใจด้านการแต่งบ้าน แฟชั่น สูตรอาหาร หรือโปรเจกต์ DIY รวมถึงเป็นพื้นที่ที่ธุรกิจสามารถโปรโมตสินค้าและดึงคนเข้าเว็บไซต์ได้ด้วย
วิธีหาเงินทาง Pinterest
ใช้กลยุทธ์เหล่านี้เป็นแนวทางในการหาเงินทาง Pinterest
พาร์ตเนอร์แอฟฟิลิเอต
ความสัมพันธ์แบบแอฟฟิลิเอตคือการร่วมมือระหว่างแบรนด์หรือบุคคลหนึ่งกับอีกแบรนด์หนึ่ง เพื่อโปรโมตสินค้าและบริการให้กันและกัน บน Pinterest การทำการตลาดแบบแอฟฟิลิเอตหมายถึงการโพสต์คอนเทนต์ที่มีลิงก์แอฟฟิลิเอตของแบรนด์อื่นไว้โดยตรง เมื่อมีผู้ใช้คลิกลิงก์ในพินของคุณแล้วสั่งซื้อสินค้า คุณก็จะได้รับค่าคอมมิชชันจากยอดขายนั้น
เริ่มต้นเป็นนักการตลาดแอฟฟิลิเอตได้ง่าย ๆ เพียงเข้าร่วมโปรแกรมหรือตัวกลางที่เชื่อมต่อระหว่างแบรนด์กับครีเอเตอร์ การสร้างรายได้จากการขายแบบแอฟฟิลิเอตจำเป็นต้องมีผู้ติดตามบน Pinterest ที่มีความสนใจตรงกับกลุ่มของแบรนด์ที่คุณโปรโมต
โฆษณาบน Pinterest
Pinterest เปิดโอกาสให้ผู้ขายสามารถโปรโมตพินของตนให้ปรากฏในฟีดหลัก หน้าหมวดหมู่ และผลการค้นหาของผู้ใช้ได้ รูปแบบโฆษณานี้มีความยืดหยุ่นและทำงานคล้ายกับระบบ Cost-Per-Click (CPC) ที่คุณสามารถกำหนดงบประมาณได้เอง
คุณสามารถใช้ Pinterest Ads Manager เพื่อสร้างและจัดการพินโปรโมต กำหนดกลุ่มเป้าหมายและคีย์เวิร์ดได้อย่างละเอียด รวมถึงดูข้อมูลวิเคราะห์ประสิทธิภาพของโฆษณาแต่ละตัว การลงโฆษณาใน Pinterest ถือเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการเพิ่มการมองเห็นของแบรนด์ ดึงดูดลูกค้าใหม่ และเพิ่มยอดขายให้กับร้านค้าออนไลน์ของคุณ
บล็อก
Pinterest เป็นช่องทางที่ช่วยเพิ่มทราฟฟิกไปยังบล็อกของแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างบอร์ดเฉพาะสำหรับบล็อกของคุณ แล้วโพสต์คอนเทนต์ที่มาพร้อมภาพสวยสะดุดตา เพื่อดึงดูดให้คนกดเข้าไปอ่าน อย่าลืมใส่ข้อมูลที่มีประโยชน์ในแต่ละบทความ พร้อมลิงก์กลับไปยังหน้าแลนดิ้งเพจหรือหน้าสินค้าบนเว็บไซต์ของคุณโดยตรง
เลือกหัวข้อบล็อกที่สอดคล้องกับแบรนด์และตรงใจกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย การสร้างบล็อกให้ทำกำไรได้อาจต้องใช้เวลา แต่เมื่อคุณมีฐานผู้อ่านที่ภักดีจากการโพสต์คอนเทนต์คุณภาพอย่างต่อเนื่อง ยอดขายสินค้าหรือรายได้จากการสมัครสมาชิกแบบพรีเมียมก็จะตามมาเอง
คอนเทนต์สปอนเซอร์
อีกหนึ่งวิธีสร้างรายได้จาก Pinterest คือการทำโพสต์แบบสปอนเซอร์ที่มีลิงก์ตรงไปยังเว็บไซต์ สินค้า หรือบริการของแบรนด์อื่น แตกต่างจากแอฟฟิลิเอตที่คุณจะได้รับค่าคอมมิชชันจากลิงก์ สปอนเซอร์คอนเทนต์จะเป็นการรับค่าจ้างโดยตรงจากแบรนด์เพื่อสร้างคอนเทนต์ให้
คุณสามารถใช้เครื่องมือ Paid Partnership ของ Pinterest เพื่อสร้างพินที่มีเนื้อหาโปรโมตแบรนด์โดยเฉพาะ เมื่อได้รับการอนุมัติจาก Pinterest โพสต์เหล่านี้จะมีป้าย “Paid Partnership” แสดงอย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังสามารถใส่คอนเทนต์สปอนเซอร์ใน Idea Pins ได้ด้วย ซึ่งเป็นรูปแบบพินที่รวมภาพและวิดีโอให้ผู้ใช้เลื่อนดูได้คล้ายกับ Instagram Stories ช่วยเพิ่มการมองเห็นและการมีส่วนร่วมของผู้ชมได้อย่างเป็นธรรมชาติ
ที่มา: Pinterest
พินที่ได้รับการสนับสนุนจาก IKEA นี้เชื่อมโยงโดยตรงไปยังหน้าผลิตภัณฑ์
การทำ Group boards
Pinterest เป็นแพลตฟอร์มที่มีคอมมูนิตี้แข็งแรง และหนึ่งในจุดเด่นคือ Group Board หรือบอร์ดที่เปิดให้หลายคนสามารถปักพิน (Pin) รูป วิดีโอ หรือคอนเทนต์ต่าง ๆ ร่วมกันได้ คุณสามารถสร้างบอร์ดกลุ่มร่วมกับลูกค้าของคุณเอง หรือเข้าร่วมบอร์ดที่มีหัวข้อใกล้เคียงกับแบรนด์ เพื่อขยายการมองเห็นให้กับคอนเทนต์ของคุณ
เมื่อคุณเข้าร่วมและแชร์คอนเทนต์ในบอร์ดที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ใช้ที่มีความสนใจเหมือนกัน ก็มีโอกาสเข้าถึงผู้ชมกลุ่มใหญ่ขึ้น และเพิ่มทราฟฟิกแบบออร์แกนิกให้กับร้านค้าออนไลน์หรือเว็บไซต์ของคุณได้อย่างต่อเนื่อง
การขายสินค้า
ปัจจุบัน Pinterest เปิดให้ผู้ขายสามารถเพิ่มแคตตาล็อกสินค้าของตัวเองบนแพลตฟอร์ม เพื่อแปลงสินค้าของคุณให้กลายเป็น Dynamic Product Pins ที่ลูกค้าค้นหาเจอได้ง่ายขึ้น และยังสามารถเชื่อมต่อกับระบบอีคอมเมิร์ซที่ใช้อยู่ เพื่ออัปเดตสต๊อกสินค้าแบบเรียลไทม์
หลังจากเพิ่มสินค้าเรียบร้อยแล้ว คุณสามารถโปรโมตเพิ่มเติมผ่านแคมเปญโฆษณา หรือใช้ฟีเจอร์ในระบบ เช่น Catalog Sales Campaigns ที่ดึงข้อมูลจากฟีดสินค้ามาสร้างโฆษณาแบบเฉพาะบุคคลได้โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ Pinterest ยังมีเครื่องมือในตัว เช่น Direct Links และ Mobile Deep Links ที่ช่วยให้ลูกค้าซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มได้โดยตรง เพิ่มโอกาสปิดการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เคล็ดลับวิธีหาเงินทาง Pinterest
- ตั้งค่าบัญชีแบบธุรกิจ
- สร้าง Rich Pins
- โฟกัส SEO ให้พินติดอันดับในการค้นหา
- โพสต์พินคุณภาพอย่างสม่ำเสมอ
- เพิ่มปุ่ม “Save” ของ Pinterest บนเว็บไซต์
- ปรับโปรไฟล์ให้เหมาะกับธุรกิจ
- สร้างบอร์ดที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย
- ใช้ Pinterest Analytics เพื่อติดตามผลลัพธ์
- ใช้เทรนด์เทศกาลเพื่อสร้างไอเดียคอนเทนต์
การสร้างพินที่มีข้อมูลที่น่าสนใจและมีประโยชน์สามารถช่วยให้แบรนด์ของคุณมีผู้ติดตาม Pinterest ที่แปลงเป็นการซื้อผลิตภัณฑ์หรือการสมัครสมาชิกบริการ พิจารณาเคล็ดลับทั่วไปเหล่านี้เมื่อคุณพัฒนากลยุทธ์ Pinterest ของคุณ:
ตั้งค่าบัญชีแบบธุรกิจ
เปลี่ยนบัญชี Pinterest ของคุณให้เป็นบัญชีธุรกิจ (Pinterest Business Account) เพื่อเข้าถึงเครื่องมือและฟีเจอร์ด้านการวิเคราะห์ที่จำเป็น บัญชีธุรกิจสามารถสร้าง Idea Pins, โฆษณาวิดีโอ, แคตตาล็อกสินค้า และคอนเทนต์อื่น ๆ ได้อย่างเต็มรูปแบบ
ปรับแต่งโปรไฟล์ Pinterest ของคุณให้เป็นเอกลักษณ์ด้วยภาพแบรนด์ (Branded Image) ยืนยันเว็บไซต์ของแบรนด์ และสมัครเข้าร่วม Verified Merchants Program เพื่อรับเครื่องหมายติ๊กฟ้าข้างชื่อโปรไฟล์ที่แสดงความน่าเชื่อถือ
ดาวน์โหลดแอป Pinterest ผ่าน Shopify App Store เพื่อโพสต์พินสินค้า อัปเดตแคตตาล็อก และติดตามผลลัพธ์การขายได้แบบเรียลไทม์
วิธีตั้งค่าบัญชีธุรกิจทำได้ง่ายมาก เพียงคลิกไอคอนโปรไฟล์ที่มุมขวาบน แล้วเลือก “Convert to business” (เปลี่ยนเป็นธุรกิจ)
ที่มา: Pinterest
สร้าง Rich Pins
Rich Pins คือพินที่แสดงข้อมูลเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ของคุณโดยตรง ทำให้คอนเทนต์ของแบรนด์ดูน่าสนใจและครบถ้วนยิ่งขึ้น พินประเภทนี้จะซิงก์ข้อมูลแบบอัตโนมัติจากเว็บไซต์ เพื่อให้รายละเอียดต่าง ๆ ถูกอัปเดตอยู่เสมอ สำหรับร้านค้าออนไลน์ Product Rich Pins จะเชื่อมต่อโดยตรงกับร้านอีคอมเมิร์ซของคุณ พร้อมแสดงข้อมูลสำคัญ เช่น ราคา รายละเอียดสินค้า และสถานะสินค้าแบบเรียลไทม์ หากคุณมีบล็อก Article Rich Pins จะดึงข้อมูลจากบทความ เช่น หัวเรื่อง คำอธิบาย และชื่อผู้เขียน มาปรากฏบนพินโดยอัตโนมัติ การใช้ Rich Pins จะช่วยให้พินของคุณโดดเด่นกว่าคู่แข่ง และมีโอกาสติดอันดับที่สูงขึ้นในหน้าผลการค้นหาของ Pinterest
ที่มา: Pinterest
โฟกัส SEO ให้พินติดอันดับในการค้นหา
แถบค้นหาของ Pinterest ทำงานคล้ายกับเสิร์ชเอนจินทั่วไป การปรับแต่ง SEO บนหน้าเพจ อย่างเหมาะสมจะช่วยให้พินของคุณถูกค้นเจอโดยกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการมากขึ้น
เริ่มจากการทำ Keyword Research เพื่อหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์หรือสินค้า จากนั้นนำคีย์เวิร์ดเหล่านั้นมาใส่ในคำอธิบายพิน (Pin Description), เมทาดาทา (Metadata) และคอนเทนต์ของพินให้เป็นธรรมชาติ
Pinterest อนุญาตให้ใช้ข้อความได้สูงสุด 100 ตัวอักษรสำหรับชื่อพิน และ 500 ตัวอักษรสำหรับคำอธิบาย การปรับพินของคุณให้เหมาะกับระบบค้นหาของ Pinterest จะช่วยให้เข้าถึงผู้ใช้ได้มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่กำลังมองหาข้อมูลหรือแรงบันดาลใจในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ของคุณ
ที่มา: Pinterest
พินสินค้าทั้งหมดเหล่านี้ปรากฏอยู่ในผลการค้นหาอันดับต้น ๆ สำหรับคีย์เวิร์ด “เสื้อยืด กางเกงยีนส์”
โพสต์พินคุณภาพอย่างสม่ำเสมอ
สร้างคอนเทนต์บน Pinterest ที่มีทั้งความน่าสนใจและเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มเป้าหมายของคุณ โพสต์พินที่มีเอกลักษณ์และคอนเทนต์ต้นฉบับเป็นประจำ อย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง Pinterest ยังเปิดให้คุณสามารถตั้งเวลาโพสต์ล่วงหน้าได้ถึงสองสัปดาห์
สร้างพินที่ดึงดูดสายตาด้วยภาพสวยคุณภาพสูงในอัตราส่วน 2:3 และวิดีโอความยาวระหว่าง 15–60 วินาที การลงคอนเทนต์ที่น่าสนใจอย่างต่อเนื่องจะช่วยเพิ่มโอกาสให้แบรนด์ของคุณได้รับทราฟฟิกมากขึ้น ทั้งจากคอนเทนต์เอง ร้านค้าออนไลน์ หรือเว็บไซต์ของคุณ
เพิ่มปุ่ม “Save” ของ Pinterest บนเว็บไซต์
นอกจากการปรับแต่งหน้าเพจ Pinterest แล้ว อย่าลืมติดตั้งปุ่ม “Save” บนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของคุณ เพื่อให้ลูกค้าสามารถบันทึกสินค้าหรือหน้าที่สนใจไปยังบอร์ด Pinterest ได้โดยตรง ปุ่มนี้ช่วยให้ผู้ใช้ที่มีบัญชี Pinterest สามารถบันทึกและแชร์สินค้าของคุณบนแพลตฟอร์มได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีเพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้าอย่างเป็นธรรมชาติ
ปรับโปรไฟล์ให้เหมาะกับธุรกิจ
หากยังไม่ได้เปลี่ยนบัญชี Pinterest ของคุณให้เป็นบัญชีธุรกิจ (ซึ่งสมัครได้ฟรี!) ควรทำทันทีเพื่อปลดล็อกเครื่องมือสำคัญ เช่น Analytics และ Ads จากนั้นปรับโฉมโปรไฟล์ให้ดูมืออาชีพและน่าจดจำ ใช้รูปโปรไฟล์ที่ชัดเจนและเป็นเอกลักษณ์ เขียนคำบรรยาย (Bio) ที่น่าสนใจพร้อมใส่คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มตลาดของคุณ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจสิ่งที่คุณนำเสนอ และเพิ่มโอกาสให้โปรไฟล์ของคุณปรากฏในผลการค้นหา
อย่าลืมใส่ลิงก์เว็บไซต์ของคุณและทำการยืนยัน (Verify) เว็บไซต์ เพราะเว็บไซต์ที่ได้รับการยืนยันจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ และเปิดใช้งานฟีเจอร์อย่าง Rich Pins ที่ดึงข้อมูลสินค้าอัตโนมัติมาแสดงในโพสต์ของคุณ
สร้างบอร์ดที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย
เพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่ใช่ ควรสร้างบอร์ดตามหัวข้อหรือธีมที่ตรงกับความสนใจของพวกเขา ตัวอย่างเช่น หากคุณขายของตกแต่งบ้าน อาจมีบอร์ดชื่อ “ไอเดียแต่งห้องนั่งเล่นอบอุ่น” หรือ “จัดบ้านพื้นที่เล็กให้ลงตัว” แต่ละบอร์ดควรมีชื่อและคำอธิบายที่ชัดเจน พร้อมแทรกคีย์เวิร์ดสำคัญเพื่อช่วยให้ค้นเจอง่ายขึ้น
พินคอนเทนต์ของคุณสลับกับคอนเทนต์ที่เป็นประโยชน์จากแหล่งอื่น เพื่อให้บอร์ดของคุณมีคุณค่าและน่าสนใจอยู่เสมอ ลูกค้าที่ติดตามจะรู้สึกว่าได้รับแรงบันดาลใจและอยากกลับมาดูเพิ่มเติมเรื่อย ๆ
ที่มา: Pinterest
แบรนด์ Fenton มีบอร์ด Pinterest หลายหมวดหมู่ ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้ชมที่แตกต่างกันแต่ละกลุ่มโดยเฉพาะ
ใช้ Pinterest Analytics เพื่อติดตามผลลัพธ์
หากอยากทำการตลาดบน Pinterest ให้ได้ผล คุณจำเป็นต้องรู้ว่าคอนเทนต์แบบไหนที่เวิร์ก และแบบไหนที่ควรปรับ Pinterest Analytics จะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของประสิทธิภาพพินแต่ละชิ้น การมีส่วนร่วมของผู้ชม และแหล่งที่มาของทราฟฟิกให้สังเกตตัวชี้วัดสำคัญ เช่น จำนวนการบันทึก (Saves), การคลิก (Clicks) และการแสดงผล (Impressions) เพื่อวิเคราะห์ว่าคอนเทนต์ประเภทใดที่โดนใจกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด จากนั้นใช้ข้อมูลเหล่านี้มาปรับกลยุทธ์ เน้นสร้างคอนเทนต์ที่ทำผลงานได้ดี และลดหรือตัดเนื้อหาที่ไม่ตอบโจทย์ออกไป
ใช้เทรนด์เทศกาลเพื่อสร้างไอเดียคอนเทนต์
ผู้ใช้ Pinterest มักเป็นคนที่ชอบวางแผนล่วงหน้า มักเริ่มค้นหาแรงบันดาลใจเป็นสัปดาห์หรือแม้แต่หลายเดือนก่อนถึงเทศกาลสำคัญ ดังนั้น คุณสามารถใช้โอกาสนี้สร้างคอนเทนต์ตามเทรนด์ฤดูกาลหรือวันหยุดต่าง ๆ เพื่อดึงความสนใจได้มากขึ้น
ตัวอย่างเช่น เริ่มโพสต์ “ไกด์ของขวัญช่วงปีใหม่” ตั้งแต่เดือนตุลาคม หรือ “สูตรอาหารหน้าร้อน” ตั้งแต่ต้นฤดูใบไม้ผลิ ใช้แถบค้นหาของ Pinterest เพื่อดูคีย์เวิร์ดที่กำลังเป็นกระแส แล้วนำคีย์เวิร์ดเหล่านั้นมาใส่ในคำอธิบายพินของคุณ เพื่อเพิ่มโอกาสให้คอนเทนต์ติดอันดับและถูกค้นเจอมากขึ้น
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการหาเงินทาง Pinterest
สินค้าประเภทไหนขายดีที่สุดบน Pinterest
สินค้าที่ขายดีบน Pinterest มักเป็นสินค้าที่มีภาพสวยสะดุดตา และอยู่ในหมวดหมู่ยอดนิยม เช่น ของตกแต่งบ้าน แฟชั่น ความงาม งาน DIY และไลฟ์สไตล์ สินค้าที่ช่วยแก้ปัญหาหรือกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ก็มักได้รับความสนใจเช่นกัน
จะสร้างบัญชีธุรกิจบน Pinterest ได้ยังไง
ไปที่หน้า Pinterest for Business จากนั้นสมัครด้วยอีเมลและกรอกรายละเอียดธุรกิจของคุณ หากมีบัญชีส่วนตัวอยู่แล้ว ก็สามารถแปลงเป็นบัญชีธุรกิจได้ง่าย ๆ ในหน้า “การตั้งค่า (Settings)”
เราสามารถหาเงินทาง Pinterest ด้วยการทำดรอปชิปได้มั้ย
ได้แน่นอน Pinterest เป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะกับธุรกิจดรอปชิปมาก เพียงปรับแต่งพินให้มีภาพคุณภาพสูง คำอธิบายน่าสนใจ และลิงก์ตรงไปยังร้านค้าของคุณ ก็สามารถดึงทราฟฟิกและสร้างยอดขายได้จริง
แนวทางที่ดีที่สุดในการทำการตลาดบน Pinterest คืออะไร
เน้นสร้างพินคุณภาพสูงที่มีคีย์เวิร์ดสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย ใช้ภาพหรือวิดีโอที่ดึงดูดสายตา โพสต์อย่างสม่ำเสมอ และจัดคอนเทนต์ให้อยู่ในบอร์ดที่มีหัวข้อชัดเจน ใช้เครื่องมือ Analytics เพื่อติดตามผล ปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสม และอย่าลืมใช้เทรนด์ตามฤดูกาลมาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างคอนเทนต์


