การขายของบนโซเชียลมีเดียเมื่อก่อนถือว่าเสี่ยงไม่น้อย คุณอาจแค่แชร์ลิงก์ไปที่เว็บไซต์ แล้วก็หวังว่าคนจะเจอ ชอบสิ่งที่เห็น และตัดสินใจซื้อ
แต่ตอนนี้ง่ายขึ้นมาก เพราะแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียใหญ่ๆ เพิ่มฟีเจอร์ช้อปปิ้งให้ลูกค้าซื้อสินค้าได้โดยตรง โดยไม่ต้องออกจากฟีดของตัวเอง
เมื่อคนใช้เวลาในโซเชียลมีเดียมากกว่า 140 นาทีต่อวัน สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องทำหลายอย่างพร้อมกัน คำถามจึงไม่ใช่ว่าควรขายของบนโซเชียลมีเดียหรือไม่ แต่ควรขายที่ไหน และโฟกัสยังไงให้ได้ผล
คู่มือนี้จะแนะนำวิธีตั้งค่าร้าน ทำโฆษณา และสร้างแบรนด์ให้ปังบน Facebook, Instagram, TikTok, YouTube และ Pinterest
เลือกขายบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ใช่
เมื่อพูดถึงการขายสินค้าของคุณ ไม่ใช่ทุกแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ถูกสร้างขึ้นมาเท่ากัน Facebook, Instagram, TikTok, Pinterest, และ YouTube มีความโดดเด่นเนื่องจากฟีเจอร์การค้าสังคมที่ทันสมัยและกลุ่มเป้าหมายที่ใหญ่และสามารถกำหนดเป้าหมายได้
แพลตฟอร์มเหล่านี้ทั้งหมด เชื่อมต่อกับ Shopify ทำให้คุณสามารถเชื่อมโซเชียลมีเดียกับร้านค้าออนไลน์ของคุณ ซิงค์ผลิตภัณฑ์ของคุณ และขายข้ามช่องทางได้ในเวลาเดียวกัน
ด้านล่างนี้เป็นฟีเจอร์เฉพาะของแต่ละแพลตฟอร์มที่สนับสนุนการขายผลิตภัณฑ์โดยตรง
โปรดทราบว่าฟีเจอร์การค้าสังคมอาจแตกต่างกันไปตามภูมิภาค โดยมักจะเปิดตัวในสหรัฐอเมริกาก่อนที่จะขยายไปยังประเทศอื่น หากฟีเจอร์บางอย่างยังไม่สามารถใช้ได้ในพื้นที่ของคุณ มันอาจจะถูกปล่อยออกมาในอนาคต
วิธีขายของบนโซเชียลมีเดีย Facebook
Facebook คือเครือข่ายโซเชียลที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีผู้ใช้งานกว่า 3 พันล้านคน และไม่ได้มีดีแค่จำนวนผู้ใช้เท่านั้น แต่ยังเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มแรกๆ ที่จริงจังกับการทำ social commerce ด้วยฟีเจอร์ขั้นสูงที่สามารถจัดกลุ่มผู้ใช้ตามความสนใจ พฤติกรรม และความชอบ ทำให้ผู้ขายสามารถยิงสินค้าไปถึงกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำ
การขายของบน Facebook มีหลายวิธีให้เลือก นี่คือวิธียอดนิยม
เปิด Facebook Shop
การเปิด Facebook Shop เป็นวิธีที่ตรงและง่ายที่สุดในการขายสินค้าบน Facebook โดยตรง คุณสามารถโชว์สินค้าบนเพจ Facebook ของคุณ พร้อมรายละเอียด ราคา และไซส์ครบถ้วน ลูกค้าสามารถเลือกดูและสั่งซื้อได้โดยไม่ต้องออกจาก Facebook (หากคุณผ่านเกณฑ์ที่กำหนด)
ถ้าใช้ Shopify การตั้งค่า Facebook Shop ทำได้ง่ายมาก เพียงเชื่อมต่อ Facebook เข้ากับร้าน Shopify ของคุณเพื่อซิงค์แคตตาล็อกสินค้า
ตัวอย่างเช่น แบรนด์จากแคนาดา Peace Collective ใช้ Facebook Shop เพื่อสร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งที่เหมือนกับหน้าเว็บไซต์ โดยลงสินค้าพร้อมรายละเอียดและตัวเลือกต่างๆ ให้ลูกค้าสั่งซื้อได้โดยตรงบนโซเชียลมีเดีย
สร้างโพสต์ที่กดซื้อได้โดยตรง
เหมือนกับเวลาที่คุณแท็กเพื่อนในโพสต์บน Facebook ส่วนตัว คุณก็สามารถแท็กสินค้าจาก Facebook Shop ลงในโพสต์บนเพจธุรกิจได้เช่นกัน วิธีนี้ช่วยให้ผู้ติดตามสามารถซื้อสินค้าได้โดยตรงจากโพสต์ของคุณ
ขั้นตอนก็ง่ายมาก: อัปโหลดรูปภาพหรือวิดีโอ แล้วแท็กสินค้าจากร้านของคุณได้สูงสุด 5 รายการ
ตัวอย่างเช่น แบรนด์เครื่องสำอาง Kate Mcleod ใช้ฟีเจอร์แท็กสินค้าเพิ่มคารูเซลสินค้าที่กดซื้อได้ลงในวิดีโอ Facebook
ขั้นต่อไป: อ่านคำแนะนำจาก Meta เกี่ยวกับวิธีแท็กสินค้าจากเพจ Facebook ของคุณ
ขายผ่าน Facebook Marketplace
Facebook Marketplace ไม่ได้มีไว้ขายของมือสองเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่ทำเลทองสำหรับธุรกิจที่ต้องการขายสินค้ามือหนึ่งอีกด้วย เพราะผู้ใช้ที่เข้ามาใน Marketplace มักมีความตั้งใจซื้ออยู่แล้ว การลงสินค้าบนช่องทางนี้จึงช่วยให้คุณเข้าถึงลูกค้าที่มีความพร้อมซื้อได้มากขึ้น
เมื่อคุณลงสินค้าใน Marketplace Facebook จะช่วยทำงานหนักแทนคุณ โดยแนะนำสินค้าของคุณให้กับผู้ใช้ที่กำลังค้นหาสินค้าใกล้เคียงกับที่คุณขาย นอกจากนี้คุณยังเพิ่มการมองเห็นได้ด้วยการทำโฆษณา Facebook Ads ให้แสดงใน Marketplace คู่กับรายการสินค้าทั่วไป
ทำโฆษณา Facebook Ads
Facebook Ads ช่วยให้สินค้าของคุณไปอยู่ตรงหน้ากลุ่มผู้ใช้ที่เกี่ยวข้อง โดยการจ่ายค่าโฆษณาจะทำให้สินค้าของคุณปรากฏในพื้นที่ที่กลุ่มเป้าหมายใช้เวลาอยู่จริง ไม่ว่าจะเป็นฟีดข่าว (News Feed), Stories, แชทใน Messenger หรือพื้นที่อื่นๆ บน Facebook
การเริ่มต้นทำ Facebook Ads ไม่ซับซ้อน เพียงเริ่มจากการมีเพจธุรกิจบน Facebook จากนั้นใช้ Meta Business Suite เพื่อจัดการโฆษณา เลือกตำแหน่งการแสดง และดูผลลัพธ์การทำงานได้อย่างละเอียด
วิธีขายของบนโซเชียลมีเดีย IG
เกือบครึ่งของผู้ใช้ที่ IG สำรวจบอกว่าช้อปปิ้งผ่านแอปทุกสัปดาห์ ด้วยแพลตฟอร์มที่เน้นภาพสวยและเป็นมิตรกับครีเอเตอร์ Instagram จึงผสานการช้อปปิ้งเข้ากับประสบการณ์การใช้งานได้อย่างลงตัว ไม่ต่างจากแพลตฟอร์มพี่อย่าง Facebook
นี่คือวิธีขายของบน Instagram ที่ได้ผล ซึ่งคล้ายกับกลยุทธ์ที่ใช้บน Facebook:
เปิด Instagram Shop
Instagram อนุญาตให้คุณตั้งหน้าร้านบนโปรไฟล์ธุรกิจ เพื่อให้ลูกค้าช้อปได้ในแอปโดยตรง ทั้ง Instagram Shop และ Facebook Shop สามารถจัดการได้จาก Meta Commerce Manager หรือจากร้าน Shopify ของคุณโดยตรง
ในการตั้งค่า Instagram Shop คุณต้องเริ่มจากการเปิดบัญชีธุรกิจบน IG
สร้างโพสต์และ Stories ที่แท็กสินค้าได้
เมื่อร้านของคุณพร้อมแล้ว คุณและผู้ใช้อื่นสามารถแท็กสินค้าลงในโพสต์และ Stories ได้ เมื่อลูกค้าแตะที่แท็ก จะเห็นรายละเอียดสินค้า เช่น ราคา และคำอธิบาย พร้อมไปต่อที่เว็บไซต์ของคุณหรือสั่งซื้อได้โดยตรงใน Instagram
สิ่งนี้ไม่เพียงทำให้การร่วมงานกับอินฟลูเอนเซอร์ ครีเอเตอร์ และพันธมิตรเป็นเรื่องง่ายขึ้น แต่ยังช่วยให้ลูกค้าเดิมมีโอกาสแชร์คอนเทนต์เกี่ยวกับสินค้าของคุณและแท็กสินค้าโดยตรงมากขึ้นด้วย

วิธีแท็กสินค้าบน IG
ทำโฆษณา Instagram Ads
ด้วย Meta Ads Manager คุณสามารถทำโฆษณาบน Instagram ได้หลายรูปแบบและตำแหน่ง เช่น ฟีดข่าว (Feeds), แท็บ Explore, แท็บ Shop, Stories และ Reels ซึ่งคล้ายกับตัวเลือกโฆษณาของ Facebook ทำให้คุณวางกลยุทธ์โฆษณาให้สอดคล้องกันได้ทั้งสองแพลตฟอร์ม
วิธีขายของบนโซเชียลมีเดีย TikTok
TikTok ยังคงเป็นแพลตฟอร์มยอดนิยม อยู่ในอันดับรองจากแพลตฟอร์มของ Meta และ YouTube ในแง่การใช้งาน จุดเด่นคือเนื้อหาวิดีโอสั้นที่ผสมความจริงใจกับความบันเทิง จึงมอบทั้งโอกาสและความท้าทายให้กับผู้ขาย และถ้ามีกลยุทธ์ที่ใช่ TikTok ก็สามารถเป็นเครื่องมือทรงพลังในการปั้นคอนเทนต์ให้ไวรัลและเพิ่มยอดขายได้
นี่คือวิธีขายของบน TikTok ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
เปิด TikTok Shop
คล้ายกับ Instagram และ Facebook TikTok Shop ให้คุณขายสินค้าตรงจากโปรไฟล์และคอนเทนต์ของคุณ โปรไฟล์ของผู้ขายจะมีไอคอน Shopping ซึ่งเมื่อแตะแล้วจะแสดงสินค้าที่ถูกแท็กไว้ในวิดีโอ
ตัวอย่างเช่น แบรนด์ Gymshark ใช้ฐานผู้ติดตามจำนวนมากบน TikTok เพื่อเปลี่ยนการมีส่วนร่วมให้กลายเป็นยอดขายโดยตรงผ่าน TikTok Shop

ขั้นต่อไป: ดูข้อมูลทั้งหมดที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับการขายของบน TikTok
สร้างโฆษณา Live Shopping
ฟีเจอร์ Live Shopping ของ TikTok ผสานการไลฟ์วิดีโอแบบเรียลไทม์เข้ากับความสามารถในการซื้อสินค้าได้ทันที ผู้ชมสามารถโต้ตอบกับคอนเทนต์ และปัดเพื่อดูและสั่งซื้อสินค้าได้ง่ายๆ ทำให้เป็นวิธีโปรโมตสินค้าที่ดึงดูดและแสดงสินค้าได้หลายชิ้นในครั้งเดียว
ตัวอย่างด้านล่างนี้แสดงให้เห็นว่าเพียงหนึ่งไลฟ์อีเวนต์บน TikTok ก็สามารถดึงผู้ชมที่มีส่วนร่วมได้หลายร้อยคน พร้อมโปรโมตสินค้าหลายรายการ และถ้าร่วมมือกับครีเอเตอร์คนอื่น ก็ยิ่งเพิ่มการเข้าถึงและประสิทธิภาพของการขายผ่านไลฟ์ได้ กลายเป็นรูปแบบใหม่ของการทำการตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์บน TikTok
ใส่ลิงก์สินค้าในวิดีโอ
การใส่ลิงก์สินค้าในวิดีโอ TikTok ทำงานคล้ายกับการแท็กสินค้าใน Instagram Reels ฟีเจอร์นี้ช่วยให้คุณโปรโมตสินค้าจาก TikTok Shop ได้โดยตรงในวิดีโอ ทำให้สินค้ามองเห็นได้มากขึ้น และลดขั้นตอนการซื้อให้สั้นลง
แบรนด์ใหญ่ๆ อย่าง Kylie Cosmetics ใช้ลิงก์สินค้าเพื่อประกาศเปิดตัวสินค้าใหม่และกระตุ้นยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เพื่อสร้างคอนเทนต์ที่นำเสนอสินค้าของคุณ ลองสำรวจไอเดียวิดีโอ TikTok ที่น่าสนใจที่นี่
รันโฆษณาบน TikTok
โฆษณา TikTok ได้พัฒนาให้สอดรับกับสภาพแวดล้อมของ social commerce บนแพลตฟอร์ม นี่คือประเภทโฆษณาหลักที่คุณสามารถใช้ได้
- In-feed ads แทรกอยู่ในฟีดของ TikTok ปรากฏระหว่างวิดีโอของผู้ใช้ ดูกลมกลืนกับคอนเทนต์ทั่วไป
- TopView ads ดึงดูดความสนใจทันทีที่ผู้ใช้เปิดแอป
- Dynamic showcase ads ปรับเนื้อหาโฆษณาตามความสนใจของผู้ใช้ แสดงสินค้าที่พวกเขามีแนวโน้มจะซื้อมากที่สุด
วิธีขายของบนโซเชียลมีเดีย YouTube
YouTube ไม่ได้เป็นแค่แพลตฟอร์มวิดีโออันดับหนึ่งเท่านั้น แต่ยังเป็นช่องทางทรงพลังในการสร้างรายได้และขายสินค้า ด้วยฐานผู้ชมขนาดมหาศาล YouTube จึงเปิดโอกาสให้ครีเอเตอร์ขายตรงถึงผู้ชมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นี่คือวิธีขายของบน YouTube ที่ได้ผลที่สุด
โปรโมตสินค้าผ่านวิดีโอและรอบๆ วิดีโอ
YouTube ให้คุณเชื่อมร้านค้าออนไลน์เข้ากับช่องของคุณ ทำให้โปรโมตและขายสินค้าผ่านวิดีโอได้ง่ายขึ้น
ฟีเจอร์ Shopping ของ YouTube ช่วยให้คุณวางสินค้าของคุณในตำแหน่งต่างๆ ได้ เช่น
- แสดงสินค้าในคำอธิบายวิดีโอและชั้นวางสินค้า (Product Shelf) ใต้คอนเทนต์
- แท็กสินค้าในวิดีโอปกติ Shorts และระหว่างการไลฟ์สตรีม
- แท็บร้านค้าเฉพาะที่แสดงสินค้าทั้งหมดของคุณ
นี่คือวิดีโอแนะนำฟีเจอร์ช้อปปิ้งของ YouTube
ทำโฆษณา YouTube Ads
นอกจากการสร้างรายได้ผ่านโฆษณาใน YouTube Partner Program แล้ว คุณยังสามารถทำโฆษณาแบบกำหนดเป้าหมายเองเพื่อโปรโมตสินค้า หรือช่องของคุณได้โดยตรง โฆษณาเหล่านี้ช่วยให้คุณเข้าถึงผู้ชมในวงกว้างขึ้น และเพิ่มทั้งยอดขายและจำนวนผู้ติดตามช่องได้

วิธีการขายบน Pinterest
Pinterest ไม่ได้เป็นเพียงแหล่งรวมไอเดียสร้างสรรค์เท่านั้น แต่ยังเป็นแพลตฟอร์มทรงพลังสำหรับการค้นพบสินค้าและการขาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีผู้ใช้งานครอบคลุมกว่า 40% ของครัวเรือนในสหรัฐฯ ที่มีรายได้เกิน 150,000 ดอลลาร์ ผู้ใช้ Pinterest มักเข้ามาวางแผนการซื้อครั้งใหญ่ ทำให้ที่นี่เป็นทำเลทองสำหรับธุรกิจในการดึงดูดความสนใจและเพิ่มยอดขาย
นี่คือวิธีขายของบน Pinterest ที่ได้ผลที่สุด
เพิ่มแท็บ Shop ลงในโปรไฟล์ Pinterest
การเปิดใช้งานการช้อปปิ้งบน Pinterest ช่วยให้คุณมีแท็บ Shop เหมือนกับบน Instagram, Facebook และ TikTok สิ่งที่น่าสนใจคือโปรแกรม Verified Merchant ของ Pinterest ซึ่งเมื่อผ่านการอนุมัติ ผู้ขายจะได้ตราสัญลักษณ์ (Badge) บนโปรไฟล์เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และอาจได้การมองเห็นมากขึ้นจากผลการค้นหาแบบออร์แกนิกใน Pinterest
ตัวอย่างเช่น Sukoshi Mart แบรนด์เครื่องสำอางเกาหลีและสินค้านำเข้าเอเชีย มีหน้าร้านบน Pinterest ที่จัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ ทำให้คอนเทนต์และการรีพินช่วยสร้างการรับรู้ และสินค้าก็สามารถสร้างยอดขายบนแพลตฟอร์มได้แบบออร์แกนิก
ทำโฆษณา Pinterest Ads
Pinterest ยังมีตัวเลือกโฆษณาเพื่อเสริมการขายแบบออร์แกนิกของคุณ โดยสามารถเลือกฟอร์แมตโฆษณาหลายแบบเพื่อโชว์สินค้าจาก Pin ของคุณได้ เช่น:
-
Shopping ads ปรากฏในฟีดของผู้ใช้โดยตรง แสดงข้อมูลสำคัญของสินค้า เช่น ราคาและสถานะสต็อก
-
Collection ads เมื่อผู้ใช้แตะโฆษณาในแอป Pinterest บนมือถือ โฆษณาจะขยายออกเป็นคอลเลกชันสินค้าที่สามารถเลื่อนดูได้
ตัวอย่างเช่น การค้นหาคำว่า “coffee” อาจไม่ได้แสดงแค่คอนเทนต์ออร์แกนิก แต่ยังรวมถึงโฆษณาสินค้ากาแฟที่ยิงตรงในช่วงที่ผู้ใช้กำลังค้นหาไอเดียสูตรเครื่องดื่มฤดูร้อนพอดี

โซเชียลเซลลิ่ง vs โซเชียลคอมเมิร์ซ
เมื่อขายของบนโซเชียลมีเดีย มีกลยุทธ์หลักอยู่สองแบบคือ การสร้างความสัมพันธ์ และการทำให้กระบวนการซื้อราบรื่นที่สุด
โซเชียลเซลลิ่ง (Social Selling)
โซเชียลเซลลิง คือการใช้โซเชียลมีเดียเพื่อเชื่อมต่อและสื่อสารกับลูกค้าที่มีโอกาสซื้อ ไม่ได้เน้นการขายตรงทันที แต่เน้นสร้างความไว้วางใจผ่านการโต้ตอบ เช่น การตอบคอมเมนต์ การแชร์คอนเทนต์ที่มีประโยชน์ และการมีส่วนร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์
ตัวอย่างเช่น แบรนด์ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดรักษ์โลก Blueland ใช้โซเชียลเซลลิงบน Instagram เพื่อให้ความรู้และสื่อสารกับผู้ติดตามเกี่ยวกับการทำความสะอาดแบบยั่งยืน แพลตฟอร์มอย่าง Instagram, TikTok และ Reddit เหมาะมากสำหรับกลยุทธ์แบบนี้ โดยเฉพาะถ้ากลุ่มเป้าหมายของคุณใช้งานอยู่บนแพลตฟอร์มเหล่านั้น

โซเชียลคอมเมิร์ซ (Social Commerce)
โซเชียลคอมเมิร์ซ ทำให้ประสบการณ์การช้อปปิ้งกลายเป็นส่วนหนึ่งของโซเชียลมีเดีย ลูกค้าสามารถค้นหา พิจารณา และซื้อสินค้าได้โดยไม่ต้องออกจากแพลตฟอร์ม ฟีเจอร์ประกอบด้วยการแท็กสินค้าในโพสต์ การเข้าถึงข้อมูลสินค้าได้ง่าย และขั้นตอนการชำระเงินที่รวดเร็ว
ตัวอย่างเช่น ฟีเจอร์ช้อปปิ้งของ Instagram เป็นหนึ่งในเครื่องมือโซเชียลคอมเมิร์ซที่ล้ำหน้าที่สุด ช่วยให้ผู้ใช้สามารถซื้อสินค้าได้โดยตรงผ่านแอป

โซเชียลเซลลิงแต่ละแบบตอบโจทย์ในขั้นตอนต่างๆ ของเส้นทางลูกค้า โซเชียลเซลลิงมุ่งเชื่อมต่อและสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภค ในขณะที่โซเชียลคอมเมิร์ซดูแลขั้นตอนการซื้อขายจริง
วิธีขายของบนโซเชียลมีเดียให้ตรงใจทุกที่ที่ลูกค้าใช้เวลาอยู่
โซเชียลคอมเมิร์ซเป็นเทรนด์ที่ไม่มีทีท่าว่าจะชะลอตัว การสร้างตัวตนบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งเป็นที่ที่ลูกค้าใช้เวลาอยู่แล้ว จึงเป็นสิ่งที่เหมาะสมกว่าที่เคย
ด้วยการใช้ประโยชน์จาก Facebook, Instagram, TikTok และแพลตฟอร์มอื่นๆ คุณสามารถเข้าถึงเครือข่ายผู้ซื้อจำนวนมหาศาล ปัจจุบันโซเชียลมีเดียไม่เพียงมีหน้าร้านและโพสต์ที่กดซื้อได้เพื่อโชว์สินค้าเท่านั้น แต่ยังมีตัวเลือกโฆษณาขั้นสูงเพื่อยิงไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของคุณได้อย่างแม่นยำ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับวิธีขายของบนโซเชียลมีเดีย
วิธีขายของบนโซเชียลมีเดีย
- ระบุกลุ่มเป้าหมาย: ศึกษาว่าลูกค้าในฝันของคุณคือใคร และพวกเขาใช้เวลาอยู่บนแพลตฟอร์มไหน
- เลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสม: แต่ละโซเชียลเหมาะกับประเภทสินค้าหรือบริการต่างกัน
- หาแหล่งสินค้ามาขาย: ถ้าไม่มีสต็อกของเอง สามารถเชื่อมต่อกับแบรนด์บน Shopify เพื่อขายสินค้าและเปิดร้านบนโซเชียลได้โดยไม่ต้องลงทุนสต็อก
- สร้างคอนเทนต์ให้น่าสนใจ: คอนเทนต์คือตัวจริง! พัฒนาคอนเทนต์ที่ตรงประเด็น ดึงดูด และเกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมาย
- ทำแคมเปญโฆษณาแบบจ่ายเงิน: การยิงโฆษณาบนโซเชียลช่วยเพิ่มการเข้าถึงและยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ติดตามและวิเคราะห์ผล: ดูผลลัพธ์ของแคมเปญแล้วปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสม
- มีส่วนร่วมกับลูกค้า: ใช้เวลาโต้ตอบกับลูกค้าบนโซเชียลเพื่อสร้างความสัมพันธ์และเพิ่มความภักดีในแบรนด์
โซเชียลมีเดียช่องทางไหนขายของดีที่สุด?
ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้าและกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการเข้าถึง แพลตฟอร์มยอดนิยมที่ควรพิจารณา ได้แก่ Facebook, Instagram, Twitter, Pinterest และ YouTube
ทำไมโซเชียลมีเดียถึงเหมาะกับการขายของ?
โซเชียลมีเดียช่วยให้คุณเชื่อมต่อและสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้ง่าย เข้าถึงคนได้มากกว่าการโฆษณาแบบเดิม และมีโอกาสสื่อสารแบบเป็นกันเองมากขึ้น
นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มทราฟฟิกไปยังเว็บไซต์และกระตุ้นยอดขายได้ด้วยข้อเสนอพิเศษหรือส่วนลด อีกทั้งยังเป็นช่องทางในการรับฟังความคิดเห็นลูกค้า เพื่อนำมาปรับปรุงสินค้าและบริการให้ดีขึ้น
การโพสต์ขายสินค้าบนโซเชียลมีเดีย ต้องทำยังไง?
- เลือกสินค้าที่ต้องการโพสต์
- ถ่ายภาพสินค้าคุณภาพสูง
- เขียนแคปชันที่ดึงดูด มีข้อมูล และใส่แฮชแท็กที่เกี่ยวข้อง
- แชร์โพสต์บนแพลตฟอร์มที่เหมาะสม
- ติดตามและตอบกลับคอมเมนต์หรือคำถาม
- มีส่วนร่วมกับผู้ใช้คนอื่นที่แชร์หรือคอมเมนต์ในโพสต์


