การหาตัวเลือกบรรจุภัณฑ์และการจัดส่งที่คุ้มค่าถือเป็นกุญแจสำคัญในปี 2026 ราคากระดาษลูกฟูกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดสองสามปีที่ผ่านมา หมายความว่าค่าใช้จ่าย “เล็กๆ” อย่างกล่อง เทป และวัสดุกันกระแทกสามารถกลายเป็นต้นทุนก้อนใหญ่ที่กัดกำไรของคุณได้โดยไม่รู้ตัว ยิ่งไปกว่านั้น ลูกค้ายังคาดหวังมากขึ้น อย่างน้อยที่สุด พวกเขาต้องการการจัดส่งที่รวดเร็วและประสบการณ์แกะกล่องที่ง่ายดาย
ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำประเภทต่างๆ ของกล่องพัสดุราคาย่อมเยา แชร์ข้อมูลราคา และเปิดพิกัด 12 แหล่งที่เหมาะที่สุดสำหรับการจัดหากล่องพัสดุราคาถูกสำหรับธุรกิจของคุณ
วิธีคำนวณต้นทุนกล่องพัสดุของคุณ
ก่อนที่จะรู้ว่ากล่องพัสดุแบบไหนเรียกว่าราคาถูก เราต้องรู้ราคาต่อกล่องบนเว็บไซต์ของผู้จัดจำหน่ายก่อน ซึ่งอัตราที่เราเห็นก็มักจะเป็นเพียงส่วนหนึ่งของต้นทุนทั้งหมดเท่านั้น
ต้นทุนจริงของคุณจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง อาทิ
- ปริมาณการสั่งซื้อ: การสั่งซื้อกล่อง 20 ใบต่อครั้งจะมีราคาต่อหน่วยสูงกว่าการสั่ง 200 หรือ 2,000 ใบ ผู้จัดจำหน่ายส่วนใหญ่มีส่วนลดเมื่อสั่งซื้อจำนวนมาก ดังนั้นยิ่งสั่งมาก ราคาต่อกล่องก็จะยิ่งถูกลง
- ขนาด: กล่องที่มีขนาดใหญ่เกินความจำเป็นเพียงไม่กี่นิ้วก็อาจทำให้ค่าขนส่งเพิ่มขึ้น เพราะผู้ให้บริการมักคำนวณตามน้ำหนักเชิงปริมาตร (คำนึงถึงทั้งขนาดและน้ำหนักจริง) การเลือกกล่องให้เหมาะกับสินค้าจะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มาก
- น้ำหนัก: กล่องที่มีน้ำหนักมากไม่เพียงแต่มีค่าจัดส่งสูงขึ้น แต่ยังต้องใช้วัสดุบรรจุที่แข็งแรงขึ้นซึ่งมักมีราคาสูงกว่า
- ปลายทาง: ค่าจัดส่งจะแตกต่างกันตามพื้นที่จัดส่ง โดยการจัดส่งระยะไกลหรือระหว่างประเทศมักมีราคาสูงกว่าการจัดส่งในประเทศ
- ความถี่ในการสั่งซื้อ: การสั่งซื้อครั้งเดียวอาจดูถูกกว่าในระยะสั้น แต่ถ้าคุณต้องสั่งซ้ำบ่อยๆ ครั้งละไม่มาก ต้นทุนจะสะสมขึ้นได้ง่าย การวางแผนความต้องการบรรจุภัณฑ์ล่วงหน้าและสั่งซื้อครั้งละมากๆ ปีละไม่กี่ครั้งมักจะคุ้มค่ากว่า
นอกจากปัจจัยพื้นฐานเหล่านี้ อย่าลืมคำนึงถึง
- ส่วนลดตามปริมาณ: ผู้จัดจำหน่ายหลายรายจะลดราคาลงอย่างมากเมื่อคุณสั่งถึงจำนวนที่กำหนด เช่น 500 หรือ 1,000 กล่อง
- ค่าจัดส่งจากผู้จัดจำหน่าย: อย่าลืมว่าคุณมักต้องจ่ายค่าขนส่งสำหรับการส่งกล่องมายังคลังของคุณด้วย โดยเฉพาะเมื่อสั่งกล่องขนาดใหญ่ ค่าขนส่งอาจสูงจนเกือบเท่าราคากล่องเองเลยทีเดียว
รวมแหล่งซื้อกล่องพัสดุราคาถูก
1. Lazada
Lazada มีอุปกรณ์บรรจุภัณฑ์และกล่องพัสดุราคาถูกให้เลือกหลากหลาย ทั้งขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ เหมาะสำหรับร้านค้าออนไลน์ทุกประเภท คุณสามารถสั่งซื้อได้โดยตรงจากผู้ขายหลายรายในแพลตฟอร์ม ซึ่งมักมีราคาขายส่งหรือโปรลดราคาสำหรับการสั่งจำนวนมาก
บน Lazada ราคากล่องพัสดุเริ่มตั้งแต่ประมาณ 3–60 บาทต่อกล่อง หรือราว 150–400 บาทต่อแพ็ก (20 กล่อง) แล้วแต่ผู้ขายและโปรโมชั่น
2. Shopee
Shopee เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มยอดนิยมในการหาซื้อกล่องพัสดุราคาถูก มีตัวเลือกให้เลือกหลายขนาดและหลายแบบ ทั้งกล่องไปรษณีย์มาตรฐาน กล่องลูกฟูก หรือซองกันกระแทก
คุณสามารถเลือกซื้อจากร้านที่มีคะแนนรีวิวสูง เพื่อให้ได้สินค้าคุณภาพดีในราคาคุ้มค่า และหากใช้บริการ Shopee Express บางร้านยังจัดโปรโมชั่นลดราคาค่าจัดส่งเพิ่มเติมด้วย ช่วงราคาอยู่ที่ประมาณ 2–55 บาทต่อกล่อง หรือ 120–350 บาทต่อแพ็ก
3. ไปรษณีย์ไทย
ไปรษณีย์ไทยมีจำหน่ายกล่องพัสดุมาตรฐานหลากหลายขนาดในราคาย่อมเยา เหมาะกับผู้ที่ส่งของบ่อย เช่น ร้านค้าออนไลน์หรือธุรกิจขนาดเล็ก
กล่องแบบ “ก ข ค ง จ ฉ” มีให้เลือกตั้งแต่ขนาดเล็กจนถึงใหญ่ ราคาเริ่มต้นเพียง 9 บาทต่อกล่อง และสามารถหาซื้อได้ที่ที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ หรือสั่งออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของไปรษณีย์ไทยได้โดยตรง

4. HomePro
HomePro มีการเลือกกล่องที่แข็งแรงมากมาย รวมถึงกล่องขนาดใหญ่และกล่องพิเศษ พร้อมอุปกรณ์สำหรับการแพ็กสินค้า ราคากล่องเริ่มต้นที่ราคากล่องละไม่ถึง 5 บาท
5. Kerry Express
Kerry Express จำหน่ายกล่องบรรจุภัณฑ์มาตรฐานของตนเอง พร้อมอุปกรณ์แพ็กของ เช่น เทปกาวและซองกันกระแทก เหมาะสำหรับร้านค้าที่ใช้บริการจัดส่งของ Kerry อยู่แล้ว เพราะสามารถเลือกขนาดกล่องที่เข้ากับระบบขนส่งของ Kerry ได้พอดี
ลูกค้าสามารถซื้อกล่องพัสดุราคาถูกได้ที่สาขา Kerry Express หรือร้านพาร์ตเนอร์ที่มีสัญลักษณ์ Kerry Express Shop
6. Flash
Flash Shop เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกยอดนิยมในไทย โดยเฉพาะในกลุ่มร้านค้าออนไลน์ที่ส่งของบ่อย Flash มีจำหน่ายกล่องพัสดุหลายขนาด รวมถึงซองพลาสติกและเทปกาวในราคาขายส่ง
สามารถซื้อได้ที่ร้าน Flash Shop ทุกสาขา หรือสั่งออนไลน์ผ่านช่องทางของ Flash Express ได้โดยตรง ซึ่งมักมีโปรโมชั่นลดราคาสำหรับผู้ส่งสินค้าจำนวนมาก
7. OfficeMate
OfficeMate จำหน่ายกล่องพัสดุและอุปกรณ์บรรจุภัณฑ์ครบครัน ทั้งกล่องลูกฟูก เทปกันกระแทก และซองกันน้ำ เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการซื้อของแพ็กเกจจิ้งพร้อมกันหลายรายการ
จุดเด่นคือสามารถสั่งผ่านเว็บไซต์ได้ง่าย มีบริการจัดส่งทั่วประเทศ และมักจัดโปรโมชั่นลดราคาสำหรับลูกค้าธุรกิจ (B2B)
8. Makro
Makro เป็นอีกแหล่งยอดนิยมสำหรับร้านค้าออนไลน์ที่ต้องการซื้อกล่องพัสดุราคาถูกจำนวนมากในราคาขายส่ง มีให้เลือกหลายขนาด และมักขายเป็นแพ็กใหญ่ ราคาต่อกล่องจึงถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป
สามารถซื้อได้ทั้งที่สาขา Makro ใกล้บ้าน หรือสั่งผ่าน Makro Online ได้โดยตรง ช่วงราคาราว 7–30 บาทต่อกล่อง หรือ 150–350 บาทต่อแพ็กใหญ่ (10–20 กล่อง)
9. ไดโซะ
สำหรับผู้ที่ต้องการกล่องเล็ก ๆ หรือกล่องของขวัญราคาประหยัด Daiso เป็นตัวเลือกที่ดี มีหลากหลายดีไซน์และขนาดให้เลือก เหมาะสำหรับสินค้าชิ้นเล็กหรือของขวัญที่ต้องการแพ็กอย่างสวยงาม โดยราคากล่องส่วนใหญ่อยู่ในช่วง 60–100 บาท ต่อชิ้น ขึ้นอยู่กับขนาดและวัสดุ
10. BigC
Big C มีโซนอุปกรณ์สำนักงานและของใช้ในบ้าน ที่มีกล่องกระดาษและกล่องเก็บของให้เลือกหลายแบบ สามารถนำมาใช้เป็นกล่องพัสดุได้ดี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อกล่องขนาดกลางถึงใหญ่ในราคาประหยัด พร้อมเลือกซื้อของใช้สำนักงานอื่น ๆ ได้ในที่เดียว
11. Lotus’s
Lotus’s มีสินค้าประเภทบรรจุภัณฑ์และกล่องเก็บของให้เลือกในโซนเครื่องใช้สำนักงาน รวมถึงเทปกาวและอุปกรณ์แพ็กของพื้นฐาน
กล่องพัสดุราคาถูกจากที่นี่เหมาะสำหรับร้านค้าออนไลน์ขนาดเล็กหรือบุคคลทั่วไปที่ต้องการกล่องราคาย่อมเยาและหาซื้อง่ายใกล้บ้าน ราคาประมาณ 12–35 บาทต่อกล่อง หรือ 250–400 บาทต่อแพ็ก
ประเภทกล่องพัสดุ
กล่องบรรจุภัณฑ์มีให้เลือกหลายแบบเมื่อคุณต้องการจัดส่งสินค้า โดยแต่ละแบบมีคุณสมบัติและข้อดีต่างกันไป ตัวอย่างเช่น
- กล่องลูกฟูก: วัสดุบรรจุภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเพราะมีความแข็งแรงและทนทาน กล่องลูกฟูกทำจากกระดาษหลายชั้นซ้อนกันเป็นลอนคลื่น ช่วยเพิ่มความหนาแน่นและความสามารถในการปกป้องสินค้ามีมูลค่าได้ดี
- กล่องกระดาษแข็ง: กล่องประเภทนี้จะบางกว่า มักผลิตจากกระดาษชั้นเดียวหรือเยื่อกระดาษหนา เหมาะกับการใช้งานทั่วไป ถึงแม้จะยืดหยุ่นและใช้งานได้หลากหลาย แต่ก็ไม่ทนทานเท่ากล่องลูกฟูก
- กล่องโพลี: ทำจากฟิล์มโพลีเอทิลีน เป็นตัวเลือกที่ยืดหยุ่น ใช้ซ้ำได้ ราคาย่อมเยา และสามารถปรับแต่งได้ตามต้องการ กล่องชนิดนี้ยังช่วยปกป้องสินค้าได้ดีด้วยคุณสมบัติกันน้ำและกันกระแทก
- กล่องฉนวน: ผสมผสานโครงสร้างของกล่องกระดาษหรือกล่องลูกฟูกเข้ากับฉนวนภายใน เช่น โฟมหรือโพลียูรีเทน เหมาะสำหรับการจัดส่งสินค้าที่ต้องควบคุมอุณหภูมิ เช่น อาหาร พืช หรือสินค้าประเภทที่ไวต่ออุณหภูมิ
แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการแพ็กสินค้า
การเลือกกล่องพัสดุที่เหมาะสมเป็นเพียงครึ่งหนึ่งของกระบวนการเท่านั้น เพราะวิธีที่คุณบรรจุสินค้าก็มีผลอย่างมากทั้งต่อค่าใช้จ่ายและประสบการณ์ของลูกค้า หากบรรจุภัณฑ์ไม่รัดกุม สินค้าอาจเสียหายระหว่างทางได้ง่าย ขณะเดียวกันหากใช้กล่องที่ใหญ่เกินไป ค่าขนส่งตามน้ำหนักก็จะเพิ่มขึ้น ซึ่งทั้งสองอย่างอาจกระทบต่อกระบวนการจัดการคำสั่งซื้อและสร้างปัญหาในการจัดส่ง
แนวทางการแพ็กสินค้าที่ควรใช้
- เลือกขนาดกล่องให้พอดี: กล่องที่ใหญ่เกินไปจะทำให้ถูกคิดค่าน้ำหนักตามขนาด (dimensional weight) สูงขึ้น ส่วนกล่องที่เล็กเกินไปอาจแตกหรือฉีกขาดได้ง่าย ควรเลือกขนาดที่ใกล้เคียงกับตัวสินค้า โดยเหลือพื้นที่เล็กน้อยสำหรับวัสดุป้องกันการกระแทก
- ใช้วัสดุบรรจุรักษ์โลก: ปกป้องสินค้าด้วยวัสดุบรรจุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น กระดาษคราฟท์รีไซเคิล แผ่นกระดาษลูกฟูก หรือถั่วกันกระแทกย่อยสลายได้ วัสดุเหล่านี้มักมีน้ำหนักเบากว่าแบบทั่วไป ช่วยลดต้นทุนค่าขนส่งและดีต่อสิ่งแวดล้อม
- ปิดผนึกกล่องให้แน่นหนา: ใช้เทปกาวคุณภาพสูงและใช้วิธีปิดเทปแบบ “H-taping” โดยปิดตามรอยต่อด้านบน ด้านล่าง และตามขอบกล่อง เพื่อป้องกันการแยกหรือฉีกขาด หากเป็นกล่องหนักควรปิดเทปสองชั้นเพื่อความแน่นหนา
- กระจายน้ำหนักให้สมดุล: วางสินค้าที่มีน้ำหนักมากไว้ด้านล่างและวางของเบาไว้ด้านบน เพื่อป้องกันของที่เปราะบางจากการถูกบดทับ
- ทดสอบการบรรจุก่อนส่ง: เขย่าหรือวางกล่องลงเบาๆ เพื่อตรวจสอบว่าของข้างในขยับหรือไม่ หากขยับมากเกินไป ควรเพิ่มวัสดุป้องกันหรือใช้กล่องขนาดเล็กลง
- ประหยัดเวลาในการจัดเตรียม: สั่งกล่องแบบสมัครสมาชิกรายเดือนหรือระบบจัดส่งอัตโนมัติ เพื่อหลีกเลี่ยงการต้องไปซื้อกล่องแบบเร่งด่วน ใช้เว็บไซต์ซัพพลายเออร์ที่สามารถกรองขนาดกล่องได้รวดเร็ว และเลือกใช้ขนาดกล่องมาตรฐานเพียง 2 - 3 ขนาด เพื่อให้การจัดเก็บและการแพ็กเป็นระบบมากขึ้น
เลือกกล่องพัสดุราคาถูก หรือประหยัดค่ากล่องด้วย Shopify
ค่ากล่องพัสดุสำหรับธุรกิจขนาดเล็กอาจสูงขึ้นได้ขึ้นอยู่กับประเภท ขนาด น้ำหนัก รวมถึงค่าขนส่งและปัจจัยอื่นๆ การเข้าใจพื้นฐานของระบบขนส่งจะช่วยให้คุณลดต้นทุนการจัดส่งและรักษาความสามารถในการแข่งขันในฐานะร้านค้าขนาดเล็กได้
สำหรับร้านค้าที่ใช้ Shopify ลูกค้าสามารถลดต้นทุนขนส่งได้มากยิ่งขึ้น ด้วย Shopify Shipping ผู้ขายสามารถประหยัดค่าขนส่งในสหรัฐฯ ได้สูงสุดถึง 88% และยังสามารถจัดส่งสินค้าไปยังทั่วโลกได้อีกด้วย
ร้านค้าที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาหรือแคนาดาจะได้รับ ส่วนลดพิเศษจากผู้ให้บริการขนส่งรายใหญ่ เช่น USPS, UPS, DHL Express, Canada Post และ Sendle ส่วนลดเหล่านี้ช่วยให้คุณสามารถเสนอค่าขนส่งแบบเหมาจ่ายที่ถูกลง (หรือแม้แต่จัดส่งฟรี) ให้กับลูกค้า เพิ่มความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง
ด้วยแดชบอร์ดของ Shopify คุณสามารถจัดการสินค้า ลูกค้า สต็อกสินค้า และการจัดส่งได้ในที่เดียว รวมถึงการ ซื้อและพิมพ์ฉลากจัดส่ง เพื่อส่งคำสั่งซื้อได้เร็วขึ้น Shopify Shipping ยังมีส่วนลดพิเศษสำหรับการจัดส่งระหว่างประเทศ พร้อมความสามารถในการสร้างแบบฟอร์มศุลกากรโดยอัตโนมัติ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับกล่องพัสดุราคาถูก
กล่องพัสดุราคาถูก หาได้จากที่ไหนบ้าง
กล่องพัสดุราคาประหยัดสามารถหาซื้อได้ง่ายทั้งจากร้านค้าออนไลน์และร้านในท้องถิ่น ปัจจุบันมีหลายแหล่งยอดนิยม เช่น Lazada, Shopee, ไปรษณีย์ไทย, Kerry Express, Flash Shop, Makro ฯลฯ การเลือกซื้อจากแหล่งที่ไว้ใจได้จะช่วยลดต้นทุนการจัดส่งและเพิ่มกำไรให้กับธุรกิจของคุณได้มากขึ้น
UPS มีแจกกล่องพัสดุฟรีหรือไม่
มีเช่นกัน กล่องที่มีแบรนด์ของ UPS อย่าง UPS Worldwide Express สามารถรับได้ฟรีเมื่อคุณใช้บริการจัดส่งของ UPS ซึ่งบริษัทจะทำรายได้จากค่าจัดส่งแทน อย่างไรก็ตาม คุณสามารถลดต้นทุนเหล่านี้ได้ด้วยการใช้ Shopify Shipping ที่ให้ส่วนลดค่าจัดส่งของ UPS ในต่างประเทศ
สามารถซื้อกล่องพัสดุแบบประกอบเสร็จได้มั้ย หรือจะต้องประกอบเอง
โดยทั่วไปกล่องพัสดุจะถูกจัดส่งมาในสภาพแบน เพื่อประหยัดพื้นที่ขนส่ง ผู้ใช้ต้องพับและประกอบเองก่อนใช้งาน แต่หากต้องการความสะดวก สามารถสั่งกล่องพับอัตโนมัติ (Auto Lock Box) ได้จากร้านออนไลน์ เช่น Lazada หรือ OfficeMate
หากอยากได้กล่องพัสดุฟรี จะหาจากที่ไหนได้บ้าง
สามารถขอรับกล่องพัสดุฟรีได้จากผู้ให้บริการขนส่งบางราย เช่น ไปรษณีย์ไทย, Kerry Express, Flash Express ที่มีโปรโมชั่นแจกกล่องเมื่อใช้บริการส่งพัสดุ หรือสามารถนำกล่องเหลือใช้จากร้านค้าใกล้บ้าน เช่น ร้านโชห่วย หรือซูเปอร์มาร์เก็ต มารีไซเคิลใช้ซ้ำได้


